จัดการปัญหาสิวอุดตันแบบเฉพาะบุคคล ด้วยวิธีที่เข้าใจผิวของคุณจริง ๆ

สิวอุดตัน รักษาสิวอุดตันกับแพทย์ bslclinic

หากคุณเคยรู้สึกว่า “ลูบหน้าทีไร ต้องเจอผิวขรุขระ มีเม็ดเล็ก ๆ ใต้ผิว” หรือแม้จะล้างหน้าอย่างดีแค่ไหน ผิวก็ยังไม่เรียบ และสิวยังคงขึ้นซ้ำ ๆ โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก คาง แก้ม หรือกรอบหน้า เป็นไปได้ว่าคุณกำลังเผชิญกับ “สิวอุดตัน” สิวพื้นฐานที่พบได้บ่อยที่สุด และเกิดซ้ำได้ง่ายที่สุดเช่นกัน

สิวอุดตัน คืออะไร?

สิวอุดตัน (Comedones) คือ สิวประเภทสิวที่เกิดจากการของรูขุมขนบนผิวหนัง ลองนึกภาพว่า…รูขุมขน บนใบหน้าของเราก็เหมือนกับ “ปล่องระบาย” น้ำมันใต้ผิว ที่มีต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมัน (Sebum) ขึ้นมาช่วยหล่อเลี้ยงผิวให้ชุ่มชื้นตามธรรมชาติ

สาเหตุของสิวอุดตัน

แม้ผิวของเราจะสามารถปรับตัวและฟื้นฟูตัวเองได้ตามธรรมชาติ แต่เมื่อระบบการทำงานของต่อมไขมันและการผลัดเซลล์ผิวเสียสมดุล สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ “สิวอุดตัน” ซึ่งถือเป็นรูปแบบสิวพื้นฐานที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะในผู้ที่มีแนวโน้มผิวมันหรือใช้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสม สิวอุดตันมักเริ่มต้นอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะพัฒนาเป็นสิวอักเสบหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม แต่เมื่อใดก็ตามที่เกิด ความไม่สมดุล เช่น

สิ่งเหล่านี้จะทำให้ “ปล่องระบาย” หรือรูขุมขนอุดตัน น้ำมันระบายออกไม่ได้ จึงสะสมอยู่ในรูขุมขนและกลายเป็นสิวอุดตัน

ผิวผลิตน้ำมันมากเกินไป

มีการผลิตน้ำมันมากเกินไป

การผลัดเซลล์ผิวไม่ดี

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน

แต่งหน้าหรือล้างหน้าไม่สะอาด

การแต่งหน้าหรือล้างหน้าไม่สะอาด

ลักษณะและประเภทของสิวที่อุดตัน

สิวอุดตันเป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่พบได้บ่อยในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวมันหรือรูขุมขนกว้าง แม้สิวชนิดนี้จะไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดในระยะแรก แต่หากละเลยหรือดูแลไม่ถูกวิธี อาจพัฒนาเป็นสิวอักเสบที่รักษายากขึ้นได้ การเข้าใจลักษณะของสิวอุดตันจึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการวางแผนดูแลผิวให้เหมาะสมและป้องกันการเกิดซ้ำ

โดยทั่วไปแบ่งสิวอุดตันเป็น 2 ประเภท¹

รูขุมขนปิด / เม็ดเล็ก ใต้ผิว ดูคล้ายตุ่มนูน

รูขุมขนเปิด / ปลายสิวสัมผัสอากาศจนเกิดการออกซิไดซ์เป็นสีดำ

สิวหัวขาว (Whiteheads) คือ สิวอุดตันชนิดที่ “รูขุมขนปิด” ทำให้ไขมัน (sebum) และเซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสมอยู่ใต้ผิวหนังโดยไม่มีทางออก ลักษณะจะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็ก สีเดียวกับผิวหรือขาวซีด มักพบตามบริเวณคาง หน้าผาก หรือกรอบหน้า สิวชนิดนี้มักไม่เจ็บ แต่หากปล่อยไว้อาจพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้ในภายหลัง

สิวหัวดำ (Blackheads) คือ สิวที่เกิดจาก “รูขุมขนเปิด” โดยไขมันและเซลล์ผิวที่สะสมอยู่ในรูขุมขนจะสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศ จนเกิดการออกซิไดซ์ กลายเป็นสีดำตรงปลายหัวสิว แม้จะดูคล้ายเป็นสิ่งสกปรก แต่แท้จริงแล้วคือกระบวนการทางเคมีตามธรรมชาติ ไม่เกี่ยวกับการล้างหน้าสะอาดหรือไม่

❝ ทั้งสิวหัวขาวและสิวหัวดำล้วนเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสิว หากดูแลไม่ถูกวิธีอาจลุกลามเป็นสิวอักเสบหรือติดเชื้อได้ การรู้จักลักษณะของสิวแต่ละประเภทจึงสำคัญ เพื่อเลือกแนวทางดูแลผิวที่ตรงจุดที่สุดค่ะ ❞

ตำแหน่งไหนที่…สิวอุดตันขึ้นบ่อยที่สุด เผยสาเหตุที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

ตำแหน่งที่สิวอุดตัน (Comedonal Acne) ขึ้นบ่อยที่สุดนั้น มักเกิดในบริเวณที่มี “ต่อมไขมัน” (sebaceous glands) ทำงานมาก ซึ่งจากข้อมูลในวารสาร Journal of Clinical and Aesthetic Dermatology และ American Academy of Dermatology ระบุไว้ว่า บริเวณที่พบสิวอุดตันได้บ่อย ได้แก่

1. ใบหน้า (Face) พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะ

สิวอุดตันที่หน้าผากและจมูก

เป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันหนาแน่น และเป็นที่แรก ๆ ที่สิวอุดตันมักจะเริ่มปรากฏในวัยรุ่น

เช่น แนวไรผม บริเวณหน้าผาก ที่มักสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เช่น ครีมนวดผม หรือผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมบางชนิดที่มีส่วนผสมก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน เมื่อทำความสะอาดผิวได้ไม่ดีพอ สิวอุดตันจึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายในบริเวณนี้

รูขุมขนกว้าง โอกาสเกิดสิวหัวดำ (blackheads) สูง

โดยเฉพาะบริเวณที่สัมผัสกับโทรศัพท์ หน้ากาก หรือหมอน

สิวอุดตันที่แก้ม หรือทั่วหน้า อาจเกิดจากครีมกันแดด ที่ใช้แล้วทำความสะอาดผิวได้ไม่ดีพอ จึงเกิดสิวอุดตัน หรือการใช้แปรงแต่งหน้า หรือแปรงปัดแก้มร่วมกับผู้อื่นหรืออุปกรณ์ที่ไม่ได้ล้างเป็นประจำ ก็อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการอุดตันตามมาได้

มักเกี่ยวข้องกับความไม่สมดุลของฮอร์โมน (มีแนวโน้มสัมพันธ์กับสิวฮอร์โมน) 

หากพบสิวอุดตันเม็ดเล็กขึ้นซ้ำ ๆ สองข้างของกราม อาจมีปัจจัยกระตุ้นจากภายใน เช่น การรับประทานเวย์โปรตีน ซึ่งในบางคนอาจกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนแอนโดรเจน และส่งผลต่อการเกิดสิวอุดตันในบริเวณนี้ได้ นอกจากนี้ คราบเหงื่อหรือการใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน ก็อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกระตุ้นสิวในบริเวณคางได้เช่นกัน

การศึกษาของ Tan et al. (2012) พบว่าในกลุ่มวัยรุ่นตอนต้นถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น (อายุ 12–24 ปี) สิวอุดตันแบบ non-inflammatory จะพบบ่อยที่ T-zone ซึ่งได้แก่ หน้าผาก จมูก และคาง โดยเฉพาะ “หน้าผาก” เป็นจุดเริ่มต้นที่พบมากที่สุด²

ยังมี “การอุดตันบางประเภท” ที่เกิดจากปัจจัยที่หลายคนคาดไม่ถึง และถ้าไม่รู้เท่าทัน อาจดูแลผิดวิธี จนทำให้ผิวแย่ลงได้

สิวผดจากการมาส์กหน้า (Irritant Folliculitis)

บางคนมาส์กหน้าบ่อยเกินไป หรือใช้มาส์กที่มีสารระคายเคือง ทำให้ผิวเกิดการอุดตันเล็ก ๆ คล้ายผด มีอาการคัน แสบ หรือยุบยิบตามมาด้วย

สิวอุดตันจากการมาส์กหน้า
สิวอุดตันจากสารสเตียรอยด์

สิวสเตียรอยด์ (Steroid-induced Acne)

หากเคยใช้ครีมที่ผสมสเตียรอยด์ โดยไม่รู้ตัวหรือใช้ติดต่อกันนานเกินไป อาจทำให้เกิดสิวอุดตันแบบกระจายทั่วหน้า ลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ๆ ที่ไม่หายง่าย และผิวบางลง

สิวหิน หรือ Milia

ลักษณะเป็นเม็ดเล็ก หัวขาว แข็ง ๆ ใต้ผิว กดหรือแกะเองเท่าไหร่ก็ไม่ออก บางรายเผลอแคะจนเป็นแผลเป็นได้

สิวอุดตันที่เกิดจากสิวหิน Milia

2. หลัง (Back) และอก (Chest)

แม้ว่าสิวอุดตันจะไม่พบมากเท่าบนใบหน้า แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในคนที่มีแนวโน้มผิวมันมาก การเสียดสีจากเสื้อผ้า การออกกำลังกาย การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือครีมกันแดดที่อุดตันรูขุมขน อาจเป็นปัจจัยกระตุ้น

3 Active Ingredients ลดสิวอุดตัน เริ่มต้นดูแลผิวได้ด้วยตัวเอง

ใช้ยังไงไม่ให้หน้าพัง? รวมวิธีดูแลสิวอุดตันแบบมือใหม่ที่หมอรักษาสิวแนะนำ เมื่อพูดถึงการเริ่มต้นดูแลผิวอุดตันด้วยตัวเอง หลายคนคงเคยได้ยินชื่อส่วนผสม 3 ตัวนี้ ที่สามารถช่วยรักษาสิวอุดตันช่วงแรกๆ หรือในระดับเล็กน้อย

  • เรตินอล (Retinol)
  • เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)
  • คินดามัยซิน (Clindamycin)

แม้จะเป็นชื่อที่คุ้นหู แต่การใช้ให้ ถูกตัว ถูกเวลา และถูกวิธี คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ผิวไม่พัง และสิวค่อย ๆ ดีขึ้น

รักษาสิวอุดตันด้วยเรตินอล (Retinol) วิตามินเอ

1. เรตินอล (Retinol)

อนุพันธ์วิตามินเอที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันของรูขุมขน

  • กลไกหลัก กระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ส่งผลให้เซลล์ที่ตายแล้วหลุดลอกออกได้ตามธรรมชาติ ลดการสะสมของเคราตินและไขมันที่รูขุมขน ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของสิวอุดตัน
  • ผลลัพธ์ ช่วยให้สิวหัวปิด (Whiteheads) และสิวหัวดำ (Blackheads) ลดจำนวนลง³ พร้อมทั้งช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่
  • เหมาะกับ ผู้ที่มีสิวอุดตันกระจายทั่วใบหน้า หรือมีแนวโน้มเกิดสิวซ้ำ ๆ
  • ข้อควรระวัง อาจก่อให้เกิดอาการผิวแห้ง ลอก หรือระคายเคืองในช่วงแรก แนะนำให้เริ่มใช้ในความถี่ 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์ จากนั้นจึงค่อยเพิ่มความถี่ตามความทนของผิว และควรใช้เฉพาะในเวลากลางคืน รวมถึงต้องทาครีมกันแดดสม่ำเสมอในตอนเช้า
รักษาสิวอุดตันด้วยสารลดเชื้อแบคทีเรีย

2. เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)

สารลดเชื้อแบคทีเรีย ลดความเสี่ยงการเกิดสิวอักเสบ

  • กลไกหลัก มีฤทธิ์ในการยับยั้งและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes (C. acnes)³ ⁴ ⁵ ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิวอุดตันชนิดอักเสบ รวมถึงช่วยลดความมันและผลัดเซลล์ผิวบางส่วนเพิ่มเติม
  • ผลลัพธ์ ลดโอกาสที่สิวอุดตันจะพัฒนาเป็นสิวอักเสบ ช่วยให้ผิวโดยรวมดูเรียบเนียนขึ้น
  • เหมาะกับ สิวอุดตันที่เริ่มมีการอักเสบ หรือในผู้ที่ต้องการป้องกันไม่ให้สิวลุกลาม
  • ข้อควรระวัง อาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองได้ โดยควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำ (2.5–5%) ในช่วงแรก แนะนำให้แต้มและล้างออกหลังทิ้งไว้ 5–10 นาทีในระยะเริ่มต้น จากนั้นจึงค่อยเปลี่ยนมาใช้แบบไม่ต้องล้างออกเมื่อผิวสามารถปรับตัวได้
รักษาสิวอุดตันด้วยยาปฏิชีวนะทาภายนอก ลดการอักเสบ

3. คินดามัยซิน (Clindamycin)

ยาปฏิชีวนะทาภายนอก เพื่อลดการอักเสบของสิว

  • กลไกหลัก ลดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการอักเสบ และลดอาการบวมแดงของสิว โดยมักใช้ร่วมกับยาแต้มสิวอื่น เช่น เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์หรือเรตินอล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงต่อการดื้อยา
  • ผลลัพธ์ เหมาะสำหรับสิวอุดตันที่มีการอักเสบร่วมด้วย ลดโอกาสการแพร่ระบาดและการเกิดแผลเป็นจากสิว
  • ข้อควรระวัง ไม่แนะนำให้ใช้เดี่ยว ๆ เป็นระยะเวลานาน (มากกว่า 4–6 สัปดาห์) เพราะมีโอกาสเกิดเชื้อดื้อยา แนะนำให้ใช้ตามแผนการรักษาของแพทย์อย่างเคร่งครัด
รักษาสิวอุดตันด้วยเรตินอล (Retinol) วิตามินเอ

1. เรตินอล (Retinol)

อนุพันธ์วิตามินเอที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันของรูขุมขน

  • กลไกหลัก กระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ส่งผลให้เซลล์ที่ตายแล้วหลุดลอกออกได้ตามธรรมชาติ ลดการสะสมของเคราตินและไขมันที่รูขุมขน ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของสิวอุดตัน
  • ผลลัพธ์ ช่วยให้สิวหัวปิด (Whiteheads) และสิวหัวดำ (Blackheads) ลดจำนวนลง3 พร้อมทั้งช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่
  • เหมาะกับ ผู้ที่มีสิวอุดตันกระจายทั่วใบหน้า หรือมีแนวโน้มเกิดสิวซ้ำ ๆ
  • ข้อควรระวัง อาจก่อให้เกิดอาการผิวแห้ง ลอก หรือระคายเคืองในช่วงแรก แนะนำให้เริ่มใช้ในความถี่ 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์ จากนั้นจึงค่อยเพิ่มความถี่ตามความทนของผิว และควรใช้เฉพาะในเวลากลางคืน รวมถึงต้องทาครีมกันแดดสม่ำเสมอในตอนเช้า
รักษาสิวอุดตันด้วยสารลดเชื้อแบคทีเรีย

2. เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)

สารลดเชื้อแบคทีเรีย ลดความเสี่ยงการเกิดสิวอักเสบ

  • กลไกหลัก มีฤทธิ์ในการยับยั้งและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes (C. acnes)3,4,5 ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิวอุดตันชนิดอักเสบ รวมถึงช่วยลดความมันและผลัดเซลล์ผิวบางส่วนเพิ่มเติม
  • ผลลัพธ์ ลดโอกาสที่สิวอุดตันจะพัฒนาเป็นสิวอักเสบ ช่วยให้ผิวโดยรวมดูเรียบเนียนขึ้น
  • เหมาะกับ สิวอุดตันที่เริ่มมีการอักเสบ หรือในผู้ที่ต้องการป้องกันไม่ให้สิวลุกลาม
  • ข้อควรระวัง อาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองได้ โดยควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำ (2.5–5%) ในช่วงแรก แนะนำให้แต้มและล้างออกหลังทิ้งไว้ 5–10 นาทีในระยะเริ่มต้น จากนั้นจึงค่อยเปลี่ยนมาใช้แบบไม่ต้องล้างออกเมื่อผิวสามารถปรับตัวได้
รักษาสิวอุดตันด้วยยาปฏิชีวนะทาภายนอก ลดการอักเสบ

3. คินดามัยซิน (Clindamycin)

ยาปฏิชีวนะทาภายนอก เพื่อลดการอักเสบของสิว

  • กลไกหลัก ลดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการอักเสบ และลดอาการบวมแดงของสิว โดยมักใช้ร่วมกับยาแต้มสิวอื่น เช่น เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์หรือเรตินอล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงต่อการดื้อยา
  • ผลลัพธ์ เหมาะสำหรับสิวอุดตันที่มีการอักเสบร่วมด้วย ลดโอกาสการแพร่ระบาดและการเกิดแผลเป็นจากสิว
  • ข้อควรระวัง ไม่แนะนำให้ใช้เดี่ยว ๆ เป็นระยะเวลานาน (มากกว่า 4–6 สัปดาห์) เพราะมีโอกาสเกิดเชื้อดื้อยา แนะนำให้ใช้ตามแผนการรักษาของแพทย์อย่างเคร่งครัด

สิวอุดตันรักษาอย่างไร?

1.การทายาลดการอุดตัน

เริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือยา ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันในรูขุมขน

  • ช่วยผลัดเซลล์ผิว อย่างอ่อนโยน ป้องกันไม่ให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสมและอุดตันรูขุมขน 
  • ลดการสะสมของแบคทีเรียและการอักเสบ ที่ทำให้สิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบ เหมาะสำหรับใช้เฉพาะจุดในบริเวณที่มีสิวเกิดซ้ำ
  • ช่วยละลายความมันและสิ่งตกค้างในรูขุมขน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของสิวอุดตัน โดยเฉพาะในบริเวณหน้าผาก คาง หรือกรอบหน้า
ทายาลดการอุดตันของสิว

2.ล้างหน้าให้ถูกวิธีเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว

การล้างหน้าอย่างถูกวิธีและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมคือกุญแจสำคัญในการป้องกันและลดสิวอุดตัน

  • เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่มีน้ำมัน (Oil-Free) และ ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-Comedogenic) 
  • ใช้เจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ที่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง เพื่อไม่กระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการขัดหน้าแรงๆ หรือใช้สครับที่มีเม็ดหยาบ ซึ่งอาจทำให้ผิวระคายเคืองและอุดตันเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น

3.กดสิวอุดตันออกจากผิวถูกวิธี

สิวอุดตัน หากปล่อยทิ้งไว้ อาจกลายเป็นสิวอักเสบลุกลาม ทิ้งรอยดำ รอยแดง และหลุมสิวได้ การกดสิวออกอย่างถูกวิธี จึงช่วยลดการสะสมของสิ่งอุดตันในรูขุมขน

  • เปิดหัวสิวก่อนด้วย CO₂ Laser หรือเข็มปลอดเชื้อขนาดเล็ก เจาะเปิดหัวสิวให้สิ่งอุดตันสามารถออกได้ ลดการทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง
  • กดด้วยเครื่องมือกดสิวที่สะอาด ผ่านการฆ่าเชื้อ และมีแรงกดที่เหมาะสม ไม่บีบแรงหรือรุนแรงจนผิวอักเสบ
  • ดูแลหลังการกดสิวอย่างถูกวิธี ทายาลดการอักเสบ และหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหนัก หรือใช้ครีมที่อุดตันรูขุมขนหลังกดสิว
เลเซอร์ลดการอุดตันของผิว

4.เลเซอร์ลดการอุดตันของผิว

ลดการอุดตันด้วยการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว พร้อมสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้รูขุมขนกระชับ ผิวแข็งแรง เรียบเนียน และลดโอกาสเกิดสิวอุดตันซ้ำ6-8

  • ผิวแข็งแรงขึ้น จากการซ่อมแซมฟื้นฟูผิว โดยรวมของผิวดูสุขภาพดีขึ้น
  • ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ ด้วยการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว
  • การผลัดเซลล์ของผิวดีขึ้น ลดการสะสมของไขมันที่รูขุมขน จึงช่วยลดการอุดตันของผิวได้ดี

รักษาสิวอุดตัน ที่คลินิกไหนดี?

การรักษาสิวอุดตันไม่ใช่เพียงแค่ให้ยาหรือทำทรีตเมนต์ทั่วไป แต่ต้องอาศัยการวิเคราะห์ปัญหาผิวอย่างลึกซึ้ง เพื่อออกแบบแนวทางการรักษาที่ตรงกับสภาพผิวและพฤติกรรมของแต่ละคนโดยเฉพาะ หลายคนจึงเริ่มมองหาคลินิกที่มีการให้บริการในการดูแลสิวอุดตัน พร้อมมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในแต่ละขั้นตอนของการฟื้นฟูผิว

ด้านล่างนี้คือบางส่วนของผลลัพธ์จากเคสจริง ที่สะท้อนถึงพัฒนาการของผิวหลังเข้ารับการดูแลรักษากับทาง BSL Clinic

โปรแกรมรักษาสิว *ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย

วิธีดูแลผิว เพื่อป้องกันสิวอุดตันกลับมา

สิวอุดตันสามารถกลับมาซ้ำได้ หากยังมีพฤติกรรมที่กระตุ้นการอุดตันของรูขุมขน ดังนั้นการดูแลผิวในชีวิตประจำวันอย่างถูกวิธีจึงมีส่วนสำคัญในการป้องกันการเกิดสิวอุดตันซ้ำอีก

วิธีดูแลผิว เพื่อป้องกันสิวอุดตันกลับมา

ล้างหน้าให้สะอาดวันละ 2 ครั้ง

ด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ควรใช้น้ำร้อนจัด เพราะอาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง

เปลี่ยนปลอกหมอน ผ้าเช็ดหน้า และหน้ากากอนามัยเป็นประจำ

เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของแบคทีเรียและคราบมันที่อาจกระตุ้นสิว

หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการอุดตัน

เช่น บีบีครีมเหนียวหนัก ครีมที่มีน้ำมัน หรือแว็กซ์ผมที่อาจไหลลงบริเวณไรผม

หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ

เช่น การเท้าคาง หรือคุยโทรศัพท์แนบแก้ม โดยไม่ได้ทำความสะอาดหน้าจอก่อน

บางรายควรสังเกตอาการหลังดื่มเวย์โปรตีน

หากมีสิวอุดตันขึ้นบริเวณคางหรือกรอบหน้า อาจเป็นปฏิกิริยาของฮอร์โมนที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มต่อเนื่อง

Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวอุดตัน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวอุดตัน
ต้องกดสิวไหมถึงจะหาย?

ถ้าเป็นสิวอุดตันที่ไม่สามารถระบายออกเองได้ การกดสิวโดยแพทย์จะช่วยลดการอักเสบและป้องกันไม่ให้สิวลุกลาม แต่ควรทำอย่างถูกวิธีในคลินิกเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อหรือเกิดรอยดำ รอยแผลเป็นจากการกดสิวผิดวิธีที่บ้าน

สิวอุดตันเกิดจากอาหารหรือแพ้น้ำล้างหน้าหรือเปล่า?

ส่วนใหญ่มักเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนมากกว่าแพ้อะไรโดยตรง แต่บางคนอาจมีปัจจัยกระตุ้น เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูง, เวย์โปรตีน หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อุดตันง่าย เช่น ครีมเหนียว เครื่องสำอางที่ล้างออกยาก ก็มีส่วนทำให้สิวอุดตันแย่ลงได้

ถ้าเริ่มดูแลสิวอุดตันแล้ว จะเห็นผลเมื่อไหร่?

โดยทั่วไปแล้วจะเริ่มเห็นผลในช่วง 4-8 สัปดาห์แรก ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิว และความสม่ำเสมอในการรักษา สิวอุดตันต้องใช้เวลา ไม่ควรเร่งให้สิวยุบด้วยวิธีที่รุนแรงกับผิว เพราะอาจกระตุ้นให้ผิวอักเสบหรือทิ้งรอยได้

สรุป

สิวอุดตันอาจดูเหมือนเป็นปัญหาเล็ก ๆ ที่ไม่อักเสบ ไม่เจ็บ แต่หากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแลอย่างถูกวิธี สิวอุดตันที่เคยเล็กอาจกลายเป็นสิวอักเสบที่ลุกลาม และทิ้งรอยดำ รอยแดง หรือแม้แต่หลุมสิวที่รักษายากไว้บนผิวได้

สิ่งสำคัญคือ… หากคุณเพิ่งเริ่มมีสิวอุดตัน หรือสังเกตว่าเริ่มมีตุ่มเล็ก ๆ บริเวณหน้าผาก คาง หรือกรอบหน้า อย่ารอให้ลุกลามจนควบคุมยาก การเริ่มรักษาตั้งแต่ระยะแรก จะช่วยให้ดูแลได้ง่ายกว่า และลดโอกาสเกิดรอยแผลในระยะยาว

แนวทางการรักษาที่หมอแนะนำ คือ…เริ่มจากการประเมินสาเหตุอย่างรอบด้าน เพราะสิวของแต่ละคนเกิดจากปัจจัยที่ต่างกัน เช่น ผิวมัน ฮอร์โมน หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้  “สิวอุดตันดูแลได้ง่าย หากเริ่มต้นอย่างถูกวิธีตั้งแต่เนิ่น ๆ และได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมจากแพทย์ อย่าปล่อยให้ปัญหาเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบความมั่นใจในระยะยาวนะคะ

โดยพญ. วิภาณี อัครภูษิต เลขว. 39676 (WIPANEE AKARAPUSIT, MD)
แพทย์ประจำ BSL Clinic

  1. Zaenglein AL, Pathy AL, Schlosser BJ, Alikhan A, Baldwin HE, Berson DS, et al. Guidelines of care for the management of acne vulgaris. J Am Acad Dermatol. 2016;74(5):945–73.
  2. Tan HH, Tan AWC, Barkham T, Yan XY, Zhu M. Community-based study of acne vulgaris in adolescents in Singapore. Br J Dermatol. 2007;157(3):547–51.
  3. Leyden JJ, Stein-Gold L, Weiss J. Why Topical Retinoids Are Mainstay of Therapy for Acne. Dermatol Ther (Heidelb). 2017;7(3):293–304.
  4. Zaenglein AL. Acne vulgaris. N Engl J Med. 2018;379(14):1343–52.
  5. Thiboutot D, Gollnick H, Bettoli V, et al. New insights into the management of acne: An update from the 5. Global Alliance to Improve Outcomes in Acne group. J Am Acad Dermatol. 2009;60(5 Suppl):S1–50.
  6. Orringer JS, Kang S, Johnson TM, et al. Connective tissue remodeling induced by carbon dioxide laser resurfacing of photodamaged human skin. Arch Dermatol. 2004;140(11):1326-1332.
  7. Tierney EP, Kouba DJ, Hanke CW. Review of fractional photothermolysis: treatment indications and efficacy. Dermatol Surg. 2009;35(10):1445-1461.
  8. Manstein D, Herron GS, Sink RK, Tanner H, Anderson RR. Fractional photothermolysis: a new concept for cutaneous remodeling using microscopic patterns of thermal injury. Lasers Surg Med. 2004;34(5):426-438.

icon email