3 วิธี รักษา แผลเป็น ไม่ว่าจะแผลเป็นประเภทไหนก็เรียบเนียนได้

รักษา แผลเป็น ไม่ต้องผ่าตัด เพิ่มความมั่นใจผิวเรียบเนียนขึ้น

รักษา แผลเป็น

รักษา แผลเป็น ไม่ต้องผ่าตัด เพิ่มความมั่นใจผิวเรียบเนียนขึ้น

หนุ่มๆ สาวๆ ถ้ามีผิวเรียบเนียน ผิวใส ดูอย่างไรก็มีเสน่ห์ แต่ถ้าเกิดมีรอยแผลเป็นขึ้นมาความกังวลคงกลายเป็นเงาตามตัว ไม่ว่ารอยนั้นจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม ถือเป็นเรื่องใหญ่กันเลยทีเดียวบอกเลยว่าเรื่อง “รอยแผลเป็น” (Scar) อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ เพราะแผลเป็นบางชนิดเป็นแล้วหายเองไม่ได้ มีแต่จะยิ่งทำให้รอยชัดขึ้น กว่าจะรู้ตัว กลายเป็นแผลเป็นที่อยากกำจัดให้หาย แต่ก็ต้องใช้เวลากันสักพักเลยทีเดียว ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับประเภทของรอยแผลเป็น และวิธีรักษาของแต่ละรอยแผลกันดีกว่าค่ะ

รักษา แผลเป็น โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ BSL Clinic สร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่เข้ามา รักษา แผลเป็น จางลงผิวเรียบเนียนขึ้น

แผลเป็น ไม่ว่าจะขึ้นที่ไหนก็ไม่มีใครอยากเป็น ยิ่งถ้าเป็นในที่เห็นได้ชัดเจนอย่าง ใบหน้าแขน ขา มันไม่โอเคเลยจริงๆ แผลเป็นเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกันทั้งจากรอยสิว จากอุบัติเหตุ แผลไฟไหม้แผลที่เกิดจากการทำศัลยกรรม หรือแผลที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ มากมาย เมื่อแผลเริ่มแห้งและหายดีแต่จะทิ้งรอยทำให้ผิวหนังบริเวณที่เกิดแผลมีการเปลี่ยนไปจากเดิม อาจมีเป็นรอยนูนบนผิว ขนาดเล็กใหญ่ก็ตามรอยแผลที่เกิดขึ้น รอยพวกนี้ถือเป็นความผิดปกติของเนื้อเยื้อในระหว่างที่ทำการซ่อมแซมตัวเองและกลายเป็นแผลเป็นในที่สุด

  1. เกิดจากคอลลาเจนใต้ผิวเรียงตัวกันผิดปกติ
  2. เกิดจากพังผืดใต้ผิวหนัง

แผลเป็นที่เรารู้จักมีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน

1. แผลเป็นจากอุบัติเหตุทั่วไป

เกิดจากเนื้อเยื่อผิวหนังได้รับบาดเจ็บ จากการถูกกระแทก ของมีคม ถูกความร้อน หรือเย็นจัดหรือเกิดจากเหตุที่เราไม่คาดคิด นับเป็นแผลเป็นที่เกิดจากอุบัติเหตุ เกิดเป็นรอยแผลหดรั้ง ทำให้บริเวณแผลผิดรูปได้

2. แผลจากการผ่าตัด

การศัลยกรรม การผ่าตัดทั่วไป รวมถึงผ่าคลอดบุตร มักจะทิ้งรอยแผลเป็นที่มีรอยคล้ำสีจางๆเอาไว้หลังจากที่ตัดไหมไปแล้ว ถ้าเป็นรอยเล็กๆใช้เวลาไม่นานมักจะจางหายไปเอง ด้วยกลไลการสร้างเซลล์เพื่อมาซ่อมแซมร่างกาย แต่หากเป็นแผลใหญ่มีรอยเป็นปื้นที่ของแผลกว้าง กว่ารอยจะจางลงก็ต้องใช้เวลานาน รักษา แผลเป็น

3. แผลเป็นหลุมสิว

เกิดจากสิวอุดตันถูกเชื้อแบคทีเรีย (P.acne) มาทำการย่อยสิวที่ใต้ผิวหนัง ไม่สามารถออกมานอกผิวได้ ทำให้ใต้ผิวเกิดการอักเสบเป็นหนอง หนองแตกทำให้คอลลาเจนบริเวณนั้นเกิด การทำลายเซลล์ผิวเกิดความเสียหาย แต่ร่างกายของเรามีความฉลาดมาก เพราะจะทำการซ่อมแซ่มผิวจนเป็นพังผืดขึงตึงบริเวณที่หนองแตก และในที่สุดก็เป็นหลุมสิว ยิ่งถ้าใครเป็นสิวอักเสบเยอะๆ ผิวก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดรอยแผลเป็นหลุมสิวได้ง่ายมากๆ

4. แผลเป็นคีลอยด์ (นูน)

เกิดจากกระบวนการรักษาแผล มีการสร้างคอลลาเจนมากผิดปกติ ทำให้เนื้อเยื่อของแผลเป็นที่เกิดขึ้นกว้างขึ้นจนเกินขอบเขตของแผลเดิมมีลักษณะนูน มีสีเข้มกว่าสีผิวปกติ และอาจมีอาการคัน หรือเจ็บร่วมด้วย รอยแผลเป็นชนิดนี้จะไม่หายไปเองหรือยุบลงไปเองตามธรรมชาติ

น้องบอส – สนัญญ เป็นคนไข้ที่มีรอยแผลเป็นนูนบริเวณข้างแก้ม เป็นรอยแดงที่เห็นได้เด่นชัด เกิดจากเป็นคนที่มีอาการผิวแพ้ง่าย มีสิวอุดตันขึ้นเยอะมาก และมีอาการอักเสบร่วมด้วยทำให้เกิดรอยแผลเป็น “คีลอยด์” และอยากหาวิธี รักษา แผลเป็น เพื่อคืนความมั่นใจในการใช้ชีวิต

ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล

“ผมเป็นคนที่ผิวแพ้ง่าย สิวอุดตันขึ้นแบบรัวๆ เลย ขึ้นทีเป็นร้อยเม็ดเลยครับ พอเวลาขึ้นมาเยอะๆ ก็เกิดการอุดตันแล้วอักเสบ หลังจงากนั้นก็เป็นคีลอยด์ (Keloid) มากันเป็นคอมโบ้เซต ชุดใหญ่จัดเต็มจริงๆ คุณหมออธิบายให้ฟังว่า แผลเป็นชนิดนี้จะมีลักษณะนูนเงาและขยายใหญ่กว่าแผลเป็นที่เกิดขึ้นช่วงแรกๆ จะเป็นสีแดงแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีคล้ำหรือซีดลง บางคนอาจเกิดขึ้นทันทีที่แผลหายหรือหลังจากที่แผลหายดีไปได้สักพักอาจใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี กว่าจะก่อตัวขึ้นมาอาจทำให้รู้สึกเจ็บ คัน ระคายเคืองและส่งผลกระทบถึงเรื่องความสวยความงาม เกิดได้ทุกส่วนของร่างกายนะ แต่ส่วนใหญ่มักขึ้นตาม หน้า หน้าอก หัวไหล่ หลัง ลำคอ และติ่งหู ก่อนการรักษาบอกเลยว่าเวลาที่ไปข้างนอกก็ต้องคอยใช้คอนซีลเลอร์ปิดรอย ไม่อย่างนั้นคนจะชอบมาจ้องที่รอยแผลเป็น ความมั่นใจหายไปเลยครับ อย่างเวลาที่ไปรับงานเดินหรือถ่ายแบบ จะค่อนข้างมีปัญหาเรื่องเวลา เพราะต้องใช้เวลาในการแต่งหน้านานกว่าปกติ ปัญหาสิวและแผลเป็นนูนทำให้พลาดโอกาสการไปแคสงานหลายงานเลยครับ

ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล

คุณหมอบอกว่า รักษา แผลเป็น คีลอยด์ (นูน) แต่รักษาได้ รอยจะยุบลงไป แต่จะไม่หายขาด ถ้าจะให้รักษาแบบได้ผิวกลับมาเหมือนเดิมไม่มีทาง พอฟังตอนแรกผมก็รู้สึกเฟลไปเหมือนกัน เพราะตั้งความหวังไว้ว่าต้องหายขาดนะ แต่พอคุณหมออธิบายให้ฟังเพิ่มเติม คือ คุนหมอเปรียบเทียบแบบให้เห็นภาพว่าเหมือนเวลาที่ไม้แตก ต่อให้เราทำให้กลับมาผสานเป็นเนื้อเดียวกันกันแต่ก็จะไม่เรียบเนียนเหมือนเดิมนะ ผมเข้าใจเลยครับ (ยิ้ม)ทำให้เราเข้าใจในเรื่องของวิธีรักษา แผลเป็นและผลการรักษาได้ดีขึ้น ผมก็ยอมรับในเรื่องของผลการรักษาตรงนี้ได้ครับ ทำให้พอใจกับการรักษาของ BSL Clinic มากเลยนะครับ ผลลัพธ์ที่ได้กลับไปเกินความคาดหมายจริงๆ เพราะผิวหน้าดีขึ้นรอยสิวหายไป รอยแผลเป็นยุบและจางลง ผิวกลับมานุ่มเหมือนผิวเด็กเลย

หลังจากรักษา แผลเป็น ไปแล้ว บอกได้เลยครับว่าใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ได้ความสะดวกมากกว่าเดิม ดีกว่าเดิมเพราะไม่ต้องแต่งหน้านาน ทำให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมาก ออกไปข้างนอกก็กลบรอยแผลเป็นได้ง่ายขึ้น แค่ทาแป้งบางๆ แล้วก็ออกจากบ้านได้เลย ไปทำงานก็ไม่ต้องเสียเวลาให้พี่ๆ ช่างแต่งหน้าต้องมาคอยกลบรอย ประหยัดเวลาขึ้นเยอะเลยครับ ทำให้ใช้เวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกหลายอย่างเลย และสิ่งที่ดีที่สุด คือ ความกังวลก็หมดไปเรียกความมั่นใจกลับมาได้แบบเต็มๆ เลยครับ บอสคนเดิมที่เครียดๆ หายไป เป็นบอสคนใหม่ที่สดใสกว่าเดิมครับ”

วิธีการ รักษา แผลเป็น

วิธีการรักษาของ BSL Clinic ที่ทำการรักษาให้กับ “น้องบอส สนัญญ” คุณหมอใช้วิธีการรักษาแบบผสมผสาน เป็นการใช้วิธีการรักษาหลายๆ แบบมารักษาร่วมกันเพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด มีทั้ง การรักษาด้วยเลเซอร์ เซลล์ซ่อมเซลล์ ฉีดยารักษารอยแผลเป็นนูนเพื่อลดการอักเสบ และ ทายาสลายแผลเป็นนูน

เรียกได้ว่าอาการของน้องบอสที่เป็นมาต้องใช้การรักษา แผลเป็นแบบเป็นดับเบิ้ลคอมโบ้เซตกันเลยจริงๆ ด้วยอาการที่เป็นมีหลายอาการที่ต้องรักษาร่วมกัน เพื่อให้ผลการรักษาออกมาเป็นที่น่าประทับใจของคนไข้และได้รอยยิ้มและความมั่นใจกลับไป

1. เลเซอร์ รักษา แผลเป็น และกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ เรียกได้ว่าเป็นการรักษาที่ดีที่สุด ที่คนส่วนใหญ่ยกนิ้วว่าให้ผลการรักษาที่รวดเร็วที่สุด ชัดเจนที่สุดโดยเลเซอร์จะลงไปตัดพังผืดที่ขึงตึงอยู่ใต้ผิวเลเซอร์อนุภาคขนาดเล็กนับล้านจุดจะแย่งกันลงไปทำงานลึกถึงชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการเกิดใหม่ของเซลล์ที่อยู่ใต้ผิวกระตุ้นการสร้างใหม่และจัดเรียงคอลลาเจนเดิมให้เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพจึงทำให้เกิดเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมา จะค่อยๆ ดันให้ผิวภายนอกตื้นขึ้น เรียบเนียนเสมอกันทำให้ชั้นผิวหนังหนาตัวขึ้นและที่สำคัญแสงเลเซอร์ที่ยิงลงไปจะไม่ทำลายผิวหนังบริเวณชั้นบนให้บางลง ไม่ก่อให้เกิดแผลเป็นเพิ่มขึ้นเพราะฉะนั้นสบายใจได้เลยว่า การรักษาด้วยเลเซอร์ของเราไม่ทำร้ายผิวของคนไข้แน่นอน

2. เซลล์ซ่อมเซลล์ เป็นการนำเอาเลือดของคนไข้เองมาคัดแยกเพื่อให้ได้เซลล์ที่แข็งแรงและโกรทแฟคเตอร์ (อาหารของเซลล์) เข้าไปช่วยซ่อมแซมผิวเก่า สมานรอยแผลเป็น เป็นตัวช่วยกระตุ้นฟื้นฟูให้หลุมแผลเป็นตื้นขึ้นเป็นการสร้างผิวให้เกิดใหม่อย่างแข็งแรงจะได้ผลดีมาก การใช้เซลล์ในการซ่อมผิวช่วยในเรื่องของการรักษา แผลเป็น ที่ดีขึ้นนั่นเอง ขั้นตอนการรักษาด้วยเซลล์นี้แนะนำให้ทำควบคู่กับเลเซอร์รักษา แผลเป็น จะเวิร์คมากๆผลการรักษาก็ดีขึ้นอีกขั้นหนึ่งเลย

3. สารเติมเต็ม HA (Filler) เป็นการเติมเต็มหลุมแผลเป็น ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เป็นอีกหนึ่งเทคนิค ถ้าทำควบคู่กับการทำเลเซอร์จะช่วยเสริมกันให้ผลการรักษาแผลเป็น ดีขึ้น วิธีการรักษาคือ เราจะเติมสารเติมเต็มก่อนทำเลเซอร์ เนื่องจากสารเติมเต็มจะเป็นจุดที่ทำให้เลเซอร์โฟกัสเป้าหมายที่รอยหลุมได้ดียิ่งขึ้นทำให้ใต้ผิวหนังนูนขึ้นการใช้ฟิลเลอร์ลงไปเติมเต็มบริเวณที่เป็นพังผืด ทำให้การสร้างของพังผืดไม่สามารถกลับมาสร้างได้เหมือนเดิม ฟิลเลอร์ที่ใช้ในการรักษา แผลเป็นหลุมสิวอยู่ได้ 6-8 เดือนที่สำคัญไม่มีผลข้างเคียงหลังทำข้อดีของฟิลเลอร์ คือจะเป็นตัวทาร์เกตของเลเซอร์ ทำให้สามารถทำงานที่บริเวณพังผืดได้ดีขึ้น

รีวิวภาพผลการ รักษา แผลเป็น

ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล

การรักษาแผลเป็น สิ่งที่เราจะแนะนำบอกอยู่เสมอคือ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือหายจากการเป็นอักเสบ ในช่วงแรกๆ ให้รีบเข้ามาปรึกษาคุณหมอ ภายในระยะเวลาหลังจากที่เกิดไม่นานจะได้ผลการรักษาที่ดีกว่าการปล่อยเอาทิ้งไว้นานๆ ผลการรักษานั้น “ยิ่งเร็วยิ่งได้ผลดี” การรักษารอยแผลเป็นต้องใช้เวลาในการรักษาอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป แผลเป็นจึงจะค่อยๆ ดีขึ้น แผลเป็นบางชนิดต้องเข้าใจและใช้เวลานะอย่าใจร้อน ถ้าเป็นแค่ตื้นๆ อย่างที่บอกใช้เวลาในการรักษาไม่นานจริงๆ

แต่อย่างที่คุณหมอบอกเอาไว้นะค่ะ ถ้าเกิดรอยแผลเป็นแล้ว ทำการรักษาแล้วผิวบริเวณนั้นจะไม่เรียบเนียน100% แต่ทำให้จางหรือยุบลงได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของแผลเป็นนั้นๆ และขอย้ำอีกครั้งหนึ่ง! ว่า หากเกิดรอยแผลเป็นเมื่อไหร่ อย่านิ่งนอนใจ อย่าปล่อยไว้ ให้ปรึกษาทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ อย่าปล่อยให้ลุกลามจากรอยเล็กๆ จนกลายเป็นรอยใหญ่ ด้วยความห่วงใยและหวังดีจากใจ รอยแผลเป็นรักษาได้ ถ้ามาเร็วเคลมรอยได้ไวโดนใจแน่นอน ผลการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยแผลเป็นของคนไข้ ซึ่งวิธีการรักษารอยแผลเป็นมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการของคนไข้

icon email