
โปรแกรมรักษาขนคุด
ลงที่รากขน ฟื้นฟูผิวให้เนียนขึ้น
ผิวของเราก็ต้องการการพักฟื้นและหายใจ อย่าทำร้ายผิวด้วยการถอนหรือโกนขนแบบผิดวิธี เพราะนั่นอาจทำให้เกิดปัญหาขนคุดตามมาโดยไม่รู้ตัว การดูแลให้ผิวดูเรียบเนียนไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดการกับขนที่เกิดขึ้นตามบริเวณต่าง ๆ ทั้งขนหน้าแข้ง ขนแขน และขนรักแร้ หลายคนใช้วิธีแว็กซ์ โกน หรือถอน ซึ่งอาจทิ้งรอยแดงและทำให้ผิวเป็นตุ่มนูนขึ้นมาแทน เสียความเรียบเนียนไป เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาขนคุดมาทักทายผิวบ่อยๆ ควรเลือกวิธีจัดการขนที่เหมาะสมและอ่อนโยนกับผิว
ขนคุด คืออะไร?

ขนคุด หรือ Keratosis Pilaris คือ ภาวะที่เส้นขนไม่สามารถโผล่พ้นผิวหนังได้ตามปกติ ทำให้เกิดเป็นตุ่มเล็กๆ คล้ายหนังไก่ ส่วนใหญ่จะพบที่แขน ขา และบางครั้งอาจโผล่มาที่ใบหน้า หรือบิกินี่ไลน์ด้วย ในบางครั้งผิวมีอาการอักเสบร่วมด้วย ความชัดเจนของปัญหาขนคุดอยู่ที่สภาพผิวของแต่ละคน อีกหนึ่งสภาพผิวที่ขนชอบคุดชอบ คือ ในคนที่มีผิวแห้งมากๆ
ขนคุดอาจดูเหมือนเป็นแค่เรื่องเล็กๆ แต่สำหรับใครที่ต้องเจอปัญหานี้ทุกวัน มันส่งผลกับความมั่นใจมากกว่าที่คิด ลองนึกภาพตามกันดูนะ อยากใส่เสื้อแขนกุด กางเกงขาสั้น แต่ต้องคิดแล้วคิดอีก ผิวสวยแต่ดันเป็น “ตุ่มหนังไก่” ซะงั้น ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีเลเซอร์ ที่สามารถช่วยฟื้นฟูให้ผิวที่ดูไม่เนียนจากขนคุดดีขึ้นได้
2 โรคผิวหนังที่มีความคล้ายกัน

1. โรคขนคุด (Keratosis Pilaris) เกิดจากการแบ่งตัวของผิวหนังชั้นบนและการสะสมของโปรตีนเคราติน (Keratin) มากเกินไป ทำให้เกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขน ส่งผลให้ขนไม่สามารถงอกออกได้ตามปกติ กลายเป็นตุ่มนูนสีดำคล้ายผิวหนังไก่ และบางครั้งอาจมีการอักเสบร่วมด้วย การวิจัยพบว่าปัจจัยทางพันธุกรรมและภาวะผิวหนังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการสะสมของเคราติน
เคราติน (Keratin) คือ โปรตีนสำคัญที่ทำหน้าที่ป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว และปกป้องผิวจากรังสี UV และการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม หากเคราตินสะสมมากเกินไป อาจทำให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขนและนำไปสู่ปัญหาขนคุดนั่นเอง
2. รูขุมขนอักเสบ (Pseudofolliculitis) เกิดจากการโกนขนที่ไม่ถูกวิธีไปโกนในตำแหน่งที่ต่ำกว่าปากรูขุมขนทำให้เส้นขนโค้งงอย้อนกลับลงไปในรูขุมขนไม่สามารถแทงทะลุรูออกมากายเป็นตุ่มสีดำ พอโดนปิดกั้นแบบนี้ผิวหนังบริเวณนั้นก็เกิดการอุดตัน จึงเกิดการอักเสบบางทีกลายเป็นตุ่มหนองลามไปเป็นแผลกันเลยทีเดียว
บริเวณที่เกิดปัญหา

โรคขนคุดมักพบได้ในหลายบริเวณบนร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า แก้ม แขน ขา หน้าอก และหลัง ซึ่งเป็นจุดที่มีรูขุมขนอยู่หนาแน่น แต่ในความเป็นจริง โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกบริเวณที่มีขนบนร่างกาย เรียกได้ว่าแทบจะครอบคลุมทุกส่วนเลยทีเดียว ปัญหานี้มักทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน และอาจมีลักษณะเป็นตุ่มสีดำหรือสีแดงกระจายอยู่ ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจและต้องการหาวิธีรักษา
หลีกเลี่ยงดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม

- ห้ามแกะ เกา หรือบีบเค้น รวมถึงการโกนขน การแว็กซ์ขน เพราะเป็นแค่การดึงหนังกำพร้าออกมาเท่านั้น จะทำให้ผิวเป็นแผล และกลายเป็นรอยดำได้
- งดสครับผิว อาจทำให้ผิวอักเสบ และเกิดการระคายเคืองรุนแรงขึ้น
- ลดการระคายเคืองของผิว ด้วยการทาครีมบ่อยๆ ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นขึ้นอยู่เสมอ
วิธีการดูแลตัวเอง

ที่ BSL Clinic เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ช่วย ดูแลปัญหาขนคุด ลดการอักเสบ และทำให้ผิวแข็งแรงและดูเรียบเนียนขึ้น
- ขนคุดน้อยลง เพราะเป็นการรักษาตามสาเหตุขนคุด ไม่ใช่แค่แก้ที่ปลายเหตุ
- ผิวเรียบเนียนขึ้น ด้วยเลเซอร์ช่วยลดรอยแดงและทำให้รูขุมขนเล็กลง
- มั่นใจขึ้น ใส่ชุดไหนก็ไม่ต้องกังวล โชว์ผิวได้อย่างมั่นใจ
2 วิธีรักษาขนคุด
ที่ BSL Clinic เราใช้เลเซอร์ 2 ชนิดร่วมกันกำจัดขนคุด เพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยเลเซอร์แต่ละชนิดทำหน้าที่โฟกัสในการแก้ปัญหาผิวคนละแบบ อย่างแรกคือเลเซอร์กำจัดขน เพื่อทำให้ขนที่จะเกิดขึ้นใหม่ขึ้นน้อยลง และอีกหนึ่งเลเซอร์ทำหน้าที่ในการฟื้นฟูปรับสภาพผิว ลดการอักเสบของผิว รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวใหม่ การทำงานร่วมกันนี้ส่งผลให้ผิวดูเนียนขึ้น ลดปัญหาตุ่มหนังไก่ ได้สัมผัสผิวที่ดูเรียบเนียนขึ้น

1. เลเซอร์กำจัดขน (Hair Removal Laser Program) เป็นวิธีที่ใช้พลังงานเลเซอร์ลงไปที่รากขน ทำให้รากขนฝ่อตัวลง จึงทำให้การเกิดขนใหม่น้อยลง ขนบางลง และการใช้เลเซอร์นี้ถูกออกแบบมาให้พลังงานลงสู่รากขน จึงมีผลต่อเนื้อเยื่อด้านบนน้อย ทำการรักษาโดยแพทย์จะดูแลให้ปลอดภัย

2. เลเซอร์ปรับสภาพผิว (Fraxel Laser Program) การฟื้นฟูผิวด้วยการกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ ช่วยลดโอกาสการอุดตันที่รูขุมขน ทำให้เส้นขนสามารถงอกขึ้นได้ตามปกติ ลดโอกาสขนคุดที่ใต้ผิว ปรับให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ผิวสุขภาพดีขึ้น
รีวิวภาพผลการรักษาขนคุด

Before and 6 Months After the Treatment
*ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
คำแนะนำ: การรักษาขนคุดด้วยเลเซอร์ทั้ง 2 ชนิดร่วมกัน โดยจะมีระยะห่างประมาณ 2 สัปดาห์ในแต่ละครั้ง ซึ่งคุณหมอจะพิจารณาการรักษาตามสภาพผิวและปัญหาตามสาเหตุแบบเฉพาะบุคคล ประเมินว่าควรทำพร้อมกันหรือเว้นระยะในการรักษา เพื่อให้เลเซอร์แต่ละชนิดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- Call Center : 0993438666
- Facebook : BSL Clinic
- LINE : @bslclinic