
สิวอักเสบเป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะเมื่อสิวเริ่มมีอาการบวมแดงและรู้สึกเจ็บปวด บางครั้งมันอาจจะไม่ใช่แค่สิวที่มีหัว แต่เป็นสิวอักเสบที่เกิดขึ้นลึกใต้ผิวหนังและต้องการการดูแลที่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงการลุกลามเป็นสิวถุงใต้ผิวหนัง (สิวซีสต์ Acne Cyst) หรือแม้กระทั่งการเกิดหลุมสิวในอนาคต ปัญหานี้สามารถรักษาได้อย่างรวดเร็วด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและวิธีการที่ช่วยลดการอักเสบ พร้อมกับการดูแลผิวอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ
สารบัญ
- สิวอักเสบ คืออะไร? ทำไมขึ้นแล้วรู้สึกปวดบวม รักษาอย่างไรให้สิวยุบเร็ว
- สิวอักเสบมีกี่ประเภท?
- รู้ไหม? สิวประเภทไหน เสี่ยงเกิดหลุมสิวติดผิว
- วิธีรักษาสิวอักเสบ “สิวยุบลง ลดเจ็บ ลดโอกาสผิวเกิดหลุมสิว”
- รีวิวการรักษาสิว ให้สิวลด ผิวดีขึ้น จากแผนการรักษาเฉพาะบุคคล
- อัปเดต 2025 หัตถการเสริมลดการอักเสบของสิว
- คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
- สรุป
สิวอักเสบ คืออะไร? ทำไมขึ้นแล้วรู้สึกเจ็บปวด รักษาอย่างไรให้สิวยุบเร็ว

สิวอักเสบ (Inflammatory Acne) คืออะไร? สิวที่มีอาการแดง บวม เจ็บ หรือมีหนอง โดยเริ่มมาจาก “สิวอุดตัน” เช่น สิวหัวขาวหรือหัวดำ ที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม แล้วเกิดการติดเชื้อ จนลุกลามกลายเป็นสิวอักเสบขึ้นมา¹
ในผิวของเรามีแบคทีเรียตามธรรมชาติชื่อว่า Cutibacterium acnes (C. acnes) อยู่ตามรูขุมขน ถ้ารูขุมขนเกิดการอุดตัน และน้ำมันหรือเซลล์ผิวสะสมมากเกินไป เชื้อตัวนี้จะเติบโตได้ดี กระตุ้นแบคทีเรียให้เกิดปฏิกิริยากับสิวอุดตันอยู่ ให้ผิวเกิดการอักเสบ¹ ส่งผลให้เกิดสิวที่บวม แดง มีหนอง หรือสิวอักเสบไม่มีหัวตามมา

จากงานวิจัยยืนยันว่า Cutibacterium acnes (C. acnes) มีบทบาทที่สำคัญมากกว่าที่เราคิดว่าจะเป็นแค่แบคทีเรียธรรมดาๆ บนผิวหนัง แต่ C. acnes ยังหลั่ง Interleukin-1β (IL-1β) คือ โปรตีนไซโตไคน์ (cytokine) ที่สำคัญในระบบภูมิคุ้มกันของในร่างกาย² มีหน้าที่หลักในการกระตุ้นการอักเสบ (inflammation) เพื่อตอบสนองต่อการติดเชื้อหรือความเสียหายของเนื้อเยื่อ ส่งผลให้ผิวมีอาการบวม แดง และปวดมากขึ้น ในบริเวณที่เป็นสิว²
สิวอักเสบมีกี่ประเภท?
สิวอักเสบไม่ได้มีเพียงลักษณะเดียว แต่แบ่งออกได้หลายประเภทตามระดับความรุนแรงและลักษณะของตุ่มสิวแต่ละแบบ³ ซึ่งมีผลต่อการรักษาและความเสี่ยงในการทิ้งรอยแผลแตกต่างกัน การเข้าใจชนิดของสิวอักเสบอย่างถูกต้องจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการดูแลผิวให้กลับมาเรียบเนียนได้อย่างมั่นใจค่ะ

สิวอักเสบไม่มีหัว (Inflammatory)
ลักษณะเป็น ตุ่มนูนแดงขนาดเล็ก ≤ 5 mm ไม่มีหัวหนอง อาการมักมาพร้อมกับ อาการเจ็บ และผิวหนังโดยรอบมีการอักเสบ³
- ไม่มีหัวหนอง
- ตุ่มนูนแดง ขนาด 1-5 mm
- กดเจ็บได้เล็กน้อยถึงปานกลาง
- บริเวณใบหน้า กราม และหลังส่วนบน

สิวอักเสบมีหัวหนอง (Pustules)
สิวที่มี ตุ่มแดงนูน และมี หัวหนองสีขาวหรือเหลือง อยู่ตรงกลาง ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายส่งเม็ดเลือดขาวเข้ามาต่อสู้กับแบคทีเรียที่สะสมอยู่ในรูขุมขน³
- มีหัวหนองสีขาว หรือ หนองสีเหลือง
- เป็นตุ่มแดง เจ็บเล็กน้อย
- มักขึ้นบริเวณใบหน้า หลัง หรือหน้าอก

สิวอักเสบเป็นก้อน (Nodules)
ลักษณะเด่นคือ ก้อนแข็งขนาดใหญ่ใต้ผิวหนัง มีการอักเสบลึกและเจ็บมาก มักไม่มีหัวหนองให้เห็นจากภายนอก และใช้เวลานานกว่าจะหาย โดยมักทิ้งรอยแผลเป็นหรือหลุมสิวตามมา³
- ไม่มีหัวสิวปรากฏ
- เจ็บปวดอย่างชัดเจนเมื่อสัมผัส
- มีการอักเสบที่ลึกถึงชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน
- พบได้บ่อยบริเวณใบหน้า กราม คอ หลัง และหน้าอก
รู้ไหม? สิวประเภทไหน เสี่ยงเกิดหลุมสิวติดผิว
“สิว” ไม่ว่าจะเป็นสิวประเภทไหน หากขึ้นที่ผิวหน้า แม้ว่าจะเป็นสิวไม่เยอะ ก็ยังเสี่ยงเกิด “หลุมสิว” ได้เหมือนกัน จากผลการศึกษาทางการแพทย์ พบว่า ผู้ที่มีสิวระดับเบา ๆ หรือปานกลาง (เช่น สิวเม็ดเล็ก สิวผด สิวอุดตันหัวขาว ดำ) ก็ยังมีโอกาสเกิด “หลุมสิวถาวร” ได้เช่นกัน โดยมากกว่า 87% ของคนกลุ่มนี้มีร่องรอยแผลเป็นชนิดแบบหลุม⁴

แปลว่าอะไร?
แม้ไม่ได้เป็นสิวหัวช้าง หรือสิวหนองขนาดใหญ่ แต่ถ้า “ปล่อยให้สิวอักเสบนาน” โดยไม่รีบรักษา หรือไปบีบเองผิดวิธี ก็สามารถทิ้งรอยถาวรไว้ได้เหมือนกัน
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?
เพราะการอักเสบเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนไม่รุนแรง หากเกิดซ้ำหรืออักเสบนาน จะไปทำลายชั้นคอลลาเจนในผิว ส่งผลให้ผิวเกิดร่องลึก⁴ หรือหลุมสิวในที่สุดค่ะ
วิธีรักษาสิวอักเสบ “สิวยุบลง ลดเจ็บ ลดโอกาสผิวเกิดหลุมสิว”

สิวอักเสบเป็นปัญหาผิวที่สามารถรักษาได้ เมื่อถูกประเมิน และเลือกแนวทาง และวิธีการรักษาที่เหมาะกับประเภทสิวอักเสบ และเหมาะกับระดับความรุนแรง ในสิวของแต่ละบุคคล⁵ การรักษาจะพิจารณาจากขนาด ตำแหน่งสิว และอาการอักเสบของสิว รวมถึงสภาพผิวโดยรวมของแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดโอกาสเกิดรอยสิว หรือหลุมสิวในอนาคต “เพราะการรักษาสิวตั้งแต่ระดับเล็กน้อย” ดูแลง่ายกว่าการปล่อยให้สิวรุนแรง จนกลายเป็นหลุมสิว
ยาทารักษาสิวอักเสบ
ยาทารักษาสิวอักเสบ เป็นหนึ่งในวิธีพื้นฐานที่หมอรักษาสิว ใช้ในการควบคุมสิว โดยเฉพาะในระยะเริ่มต้นหรือระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งยาทาเหล่านี้มีหลากหลายกลไก ทั้งช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ลดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว และลดการอักเสบของผิว การเลือกใช้ยาทาแต่ละชนิดจะขึ้นอยู่กับลักษณะสิว สภาพผิว และความรุนแรงของปัญหาที่เกิดในแต่ละบุคคล การใช้ยาทาอย่างถูกวิธีและต่อเนื่องสามารถช่วยให้สิวดีขึ้น

ยาทากลุ่มเร่งการผลัดเซลล์ ลดการอุดตัน
ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดสิวอุดตัน และป้องกันการเกิดสิวใหม่ ควรใช้ก่อนนอน และทาครีมกันแดดร่วมด้วยในตอนเช้า⁵
- Tretinoin
ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันในรูขุมขน ป้องกันสิวใหม่ อาจทำให้ผิวลอก แดงในช่วงแรก ใช้ทาก่อนนอนเป็นประจำ
- Adapalene
เป็นกลุ่มวิตามินเอสังเคราะห์ ช่วยลดสิวอุดตันและอักเสบ ระคายเคืองน้อยกว่ากลุ่ม Tretinoin เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
- Topical Isotretinoin
ใช้ในสิวเล็กน้อยถึงปานกลาง ช่วยลดอุดตันและการอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงในคนตั้งครรภ์

ยาทากลุ่มลดเชื้อแบคทีเรียก่อสิว
ใช้เพื่อลดการอักเสบในสิวอักเสบ โดยลดจำนวน C. acnes บนผิว⁵
- Benzoyl Peroxide
ลดเชื้อแบคทีเรีย (C. acnes) และช่วยลดการอุดตันเล็กน้อย อาจทำให้ผิวแห้ง ลอก หรือระคายเคือง เริ่มทาบาง ๆ แล้วล้างออก ค่อย ๆ เพิ่มเวลาในการใช้ให้นานขึ้น
- Clindamycin / Erythromycin
ยาปฏิชีวนะชนิดทา ลดแบคทีเรียและการอักเสบเฉพาะจุด ทาเฉพาะสิวอักเสบ ห้ามใช้ต่อเนื่องนานเกิน 4 สัปดาห์เพื่อลดการดื้อยา

ยากลุ่มลดการอักเสบ
- Azelaic Acid
ช่วยลดสิว แบคทีเรีย และรอยแดงได้ดี อ่อนโยน เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ใช้ได้ทั้งเช้า – เย็น⁵
ยากินรักษาสิวอักเสบ
ยากินรักษาสิว เพื่อควบคุมการอักเสบ ลดเชื้อแบคทีเรีย และป้องกันการเกิดสิวใหม่ ยากินแต่ละชนิดจะถูกเลือกให้เหมาะกับระดับความรุนแรงของสิวและสภาพร่างกายของแต่ละคน ควรอยู่ในการสั่งจ่ายจากหมอรักษาสิวเท่านั้น⁶

ยากินปฏิชีวนะ (Antibiotics)
ใช้ลดเชื้อ C. acnes และลดการอักเสบ มักใช้ในสิวอักเสบระดับปานกลาง – รุนแรง⁶
- Doxycycline
ใช้บ่อยที่สุดในการรักษาสิวอักเสบระดับปานกลาง–รุนแรง ลดเชื้อ C. acnes และลดการอักเสบ ขนาดทั่วไป: 100 มก./วัน ควรรับประทานหลังอาหาร และหลีกเลี่ยงแดดจัด ไม่ควรใช้ต่อเนื่องเกิน 3-4 เดือน เพื่อลดการดื้อยา
- Minocycline
ฤทธิ์คล้าย Doxycycline แต่ซึมเข้าผิวได้ดี มีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงทางระบบประสาท (เช่น เวียนหัว) มากกว่า ใช้ในกรณีที่ Doxycycline ไม่ได้ผลหรือไม่ทนยา
- Erythromycin / Azithromycin
ทางเลือกในผู้ที่แพ้กลุ่มเททราไซคลิน หรือใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ประสิทธิภาพน้อยกว่ากลุ่มเททราไซคลิน และเสี่ยงการดื้อยาสูง ใช้เฉพาะกรณีจำเป็น และระยะเวลาสั้น
- Trimethoprim-Sulfamethoxazole
(TMP-SMX) ใช้กรณีสิวอักเสบรุนแรงมาก หรือติดเชื้อซ้ำซ้อน มีความเสี่ยงต่อการแพ้ยาและผลข้างเคียงทางผิวหนัง ใช้เฉพาะกรณีที่ยาอื่นไม่ได้ผล

ยากินลดการอุดตันและลดน้ำมันจากผิว
- Isotretinoin
ยารักษาสิวชนิดรุนแรง / ดื้อยา / เป็นซ้ำ ลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน ยับยั้งการอุดตันรูขุมขน และลดการอักเสบ ขนาด: 0.5–1 มก./กก./วัน เป็นระยะเวลา 4–6 เดือน ต้องได้รับการดูแลโดยแพทย์ และห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์เด็ดขาด ต้องติดตามผลเลือด, ไขมัน, ตับ, และสุขภาพจิตอย่างใกล้ชิด⁶

ในฐานะหมอที่เป็นห่วงคนที่เป็นสิวอักเสบ หรือไม่ว่าจะเป็นสิวประเภทใด เพราะสิวไม่ใช่แค่เรื่องของผิว แต่เป็นเรื่องของใจ กระทบต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิต หมอจึงอยากให้คุณรักษาสิวอย่างถูกวิธีตั้งแต่ระยะแรก เพราะยิ่งปล่อยไว้ ยิ่งเสี่ยงทิ้งรอยแผลเป็นไว้ที่ผิวค่ะ
- ไม่แนะนำให้ใช้ยาปฏิชีวนะติดต่อกันนานเกิน 3-4 เดือน
เพราะถ้าใช้เกินระยะเวลานี้ อาจทำให้เชื้อดื้อยา ทำให้รักษาสิวไม่หายและเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้
- ไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะเดี่ยวๆ
ควรจับคู่ใช้ร่วมกับ Benzoyl Peroxide หรือ Retinoid เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของเชื้อดื้อยา

- การติดตามผลอย่างใกล้ชิด เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
การติดตามผลอย่างใกล้ชิด และมีการประเมินซ้ำกับแพทย์เป็นระยะ เพื่อปรับการรักษาตามอาการและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
- สำหรับผู้หญิงที่ได้รับยา Isotretinoin
ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัด เพราะยานี้มีผลกระทบรุนแรงต่อตัวอ่อนในครรภ์ และต้องอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์เท่านั้น

ทั้งหมดนี้เพื่อให้ผู้ที่มีปัญหาสิวได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในระยะยาว พร้อมลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำได้ การรักษาสิวต้องใช้เวลา ความเข้าใจ ความอดทน แนะนำหลีกเลี่ยงการใช้ยาตามใจตัวเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำและวิธีการรักษาจากแพทย์ และอย่าลืมดูแลผิวด้วยวิธีที่อ่อนโยนเหมาะสมควบคู่กันไปนะคะ
รีวิวรักษาสิวที่อักเสบ ให้สิวลด ผิวดีขึ้น จากแผนการรักษาเฉพาะบุคคล

โปรแกรมรักษาสิว *ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
สิ่งที่ผมรู้สึกแตกต่างจากการรักษาสิวในครั้งนี้ คือแนวคิดที่ว่า “ต้องฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง” ก่อนจะเน้นการกดสิว หรือกินยาแบบเดิม ๆ เพราะคุณหมออธิบายว่า ถ้าผิวแข็งแรงพอ ต่อมไขมันจะสมดุลขึ้นเอง และสิวก็จะไม่เกิดซ้ำ ตอนแรกก็รู้สึกแปลกครับ เพราะที่ผ่านมาเคยรักษาด้วยการกินยาลดต่อมไขมันตลอด แต่สิวก็มักกลับมาเป็นซ้ำ พอเปลี่ยนแนวทางใหม่ ดูแลผิวจากภายใน ฟื้นฟูให้สมดุลควบคู่กับการรักษาสิวอักเสบเฉพาะจุด แค่ 2 เดือนก็เริ่มเห็นผล ผิวเรียบขึ้น และสิวก็ลดลงอย่างชัดเจนเลยครับ

โปรแกรมรักษาสิว *ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
รีวิวจากคุณผิง ที่แต่ก่อนต้องใส่แมสก์ปกปิดสิวอยู่ตลอด เพื่อนชวนออกไปเที่ยวก็ไม่อยากไป เพราะไม่มั่นใจในผิวหน้า หลังเข้ารับการรักษาสิว รอยแดงสิว ด้วยโปรแกรมการรักษาที่วางแผนให้เหมาะกับผิวและสิว จากสิวที่อักเสบทั่วหน้า ก็ค่อย ๆ จางลง รอยแดงก็จางหาย ตอนนี้คุณผิงกล้าโชว์หน้าสด และที่สำคัญกลับมายิ้มได้เต็มที่อีกครั้ง

โปรแกรมรักษาสิว *ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
น้องพร้อม เพราะรักจากพ่อ ที่คอยให้กำลังใจในการสู้กับสิว ตอนที่สิวขึ้นเต็มหน้า ทั้งอักเสบ ทั้งแดง น้องพร้อมไม่มั่นใจเลย แต่คนที่เห็นทุกอย่างมาตลอด…คือคุณพ่อ ที่คอยหาข้อมูล เลือกคลินิกให้ และตัดสินใจพาน้องมาปรึกษาคุณหมอสิว วันนี้น้องพร้อมไม่ใช่แค่สิวลดลง แต่กลับได้ความมั่นใจที่มากขึ้นด้วย ทำให้คุณพ่อก็ภูมิใจที่ได้เลือกคลินิกรักษาสิวที่ดีให้กับลูกชาย

โปรแกรมรักษาสิว *ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
คุณพั้นกับหน้าที่มีปัญหาสิวอักเสบ และรอยแดงสิว สิ่งที่กังวล คือ กำลังจะเข้าเรียนมหาวิทลัย ไม่อยากแต่งหน้าเพื่อปกปิดสิว เหมือนที่ผ่านๆ มาเพราะยิ่งแต่งหน้า สิวก็ยิ่งเห่อขึ้นเยอะกว่าเดิม จึงเลือกรักษาสิวจากสาเหตุตอนนี้เป็นสาวผิวใส ที่มั่นใจและมีความสุขมากกว่าเดิม

โปรแกรมรักษาสิว *ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
รีวิวสิวของคุณเดียร์ จากสิวที่คางและรอยดำที่เคยทำให้ไม่ค่อยมั่นใจ เวลาที่พูดคุยกับคนอื่น ก็มักจะโดนจ้องตรงที่สิว วันนี้คุณเดียร์กลับมามั่นใจในผิวของตัวเองอีกครั้ง เพราะสิวดีขึ้น รอยหาย ผิวใสขึ้น

โปรแกรมรักษาสิว *ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
สิวสเตียรอยด์เห่อ…จากการไว้ใจครีมหน้าใส อยากหน้าใสแต่กลายเป็นสิวอักเสบขึ้นเต็มหน้า หนักถึงขนาดแตะหน้าไม่ได้ เจ็บมากๆ เมื่อได้รับโปรแกรมรักษาสิว ฟื้นฟูผิวจากผิวที่โดนทำร้ายจากสารเคมี สิวค่อยๆ ลดลง เปลี่ยนให้ผิวแข็งแรงขึ้น ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน สิวลดลง จนในที่สุดคุณเอิร์นกลับมาส่องกระจกด้วยรอยยิ้มได้อีกครั้ง
โปรแกรมรักษาสิว *ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
อัปเดต 2025 หัตถการเสริมลดการอักเสบของสิว
การดูแลสิวอักเสบไม่ได้จำกัดแค่การใช้ยากินหรือยาทา แต่ยังมีหัตถการทางการแพทย์ที่ช่วยลดการอักเสบของสิวที่สาเหตุสิว แพทย์จะดูแลให้ปลอดภัย เช่น เลเซอร์ แสงบำบัด การฉีดยาลดการอักเสบเฉพาะจุด หรือทรีตเมนต์ฟื้นฟูผิว โดยแพทย์จะเลือกให้เหมาะกับประเภทและความรุนแรงของสิวในผิวของแต่ละคน ช่วยให้สิวลดลงเร็วขึ้น และลดโอกาสเกิดหลุมสิวในอนาคตได้อีกด้วย⁷
ฉีดยาลดการอักเสบของสิว
สารกลุ่มสเตียรอยด์ความเข้มข้นต่ำ ช่วยลดการอักเสบของสิวเม็ดใหญ่ โดยฉีดเฉพาะจุดให้สิวยุบเร็วขึ้น ไม่บวม ไม่ลุกลาม แต่ควรใช้เฉพาะกรณีจำเป็น และไม่บ่อย เพื่อลดผลข้างเคียงในระยะยาวเช่น⁷

- ใช้รักษาสิวอักเสบเม็ดใหญ่ บวมแดง (เช่น Nodular / Cystic Acne)
- เห็นผลใน 24-72 ชม. ลดอักเสบเร็วมาก
- ต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น ห้ามฉีดบ่อยเพราะเสี่ยงผิวบุ๋มและดื้อยา
ฉายแสงลดเชื้อแบคทีเรีย ( C. acnes )
แสงสีน้ำเงิน จะจับกับสาร porphyrins ที่เชื้อ C. acnes สร้างขึ้นเองตามธรรมชาติ และเมื่อได้รับแสงจะเกิด สารอนุมูลอิสระ (ROS) ไปทำลายผนังเซลล์แบคทีเรีย ทำให้แบคทีเรียตายลง จึงช่วยลดการอักเสบของสิวได้⁷

- ใช้กับสิวอักเสบเล็ก-ปานกลาง เช่น สิวแดง สิวตุ่มนูน
- เป็นหัตถการที่อ่อนโยน เหมาะกับผู้ที่แพ้ยา ดื้อยา หรือหญิงตั้งครรภ์
- เห็นผลภายใน 2-4 สัปดาห์ เมื่อต่อเนื่องตามรอบ
- ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ เพื่อควบคุมพลังงานแสงและความถี่ที่เหมาะสม
ลดการอักเสบ ปลอบประโลมผิว
แสงสีเหลือง มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบของผิวหนัง ช่วยปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น

- ช่วยลดอาการบวมแดง ฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอ
- มักใช้ร่วมกับแสงสีน้ำเงินหรือหัตถการอื่น ๆ เพื่อเสริมผลลัพธ์
- เหมาะกับผิวหลังการกดสิว / หลังทำเลเซอร์ หรือผิวที่ระคายเคืองง่าย
- ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ เพื่อควบคุมพลังงานแสงและความถี่ที่เหมาะสม
เลเซอร์ลดการทำงานของต่อมไขมัน
เลเซอร์ความยาวคลื่น 1726 nm ถูกออกแบบมาเพื่อเจาะจงเป้าหมายที่ “ต่อมไขมัน” ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดสิวอุดตัน และสิวอักเสบ โดยคลื่นแสงจะลงไปทำงานที่ตัวต่อมไขมัน ทำให้ลดการผลิตน้ำมันอย่างปลอดภัย โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน ไม่ลอก ไม่ทำให้ผิวบาง และไม่เสี่ยงผลข้างเคียงจากการใช้ยาระยะยาว⁷

- ใช้ในผู้ที่เป็นสิวอักเสบเรื้อรัง หรือผิวมันง่ายจากต่อมไขมันทำงานมากเกินไป
- เห็นผลตั้งแต่ 3-6 สัปดาห์ ความมันบนผิวลดลง สิวอักเสบลดลงต่อเนื่อง
- เหมาะกับผู้ที่ใช้ยาไม่ได้ เช่น หญิงตั้งครรภ์ หรือในคนที่อยากรักษาสิวแต่ไม่อยากกินยา และในผิวของคนที่มีสิวฮอร์โมน สิวขึ้นคางซ้ำๆ
- เช่น Accure Program, AviClear Program
เลเซอร์ฟื้นฟูผิว ลดรอยสิว กระตุ้นคอลลาเจน
เลเซอร์ชนิด Fractional Non-Ablative เช่น Program Fraxel 1550 nm ช่วยฟื้นฟูผิวที่มีปัญหาสิวอักเสบเรื้อรัง โดยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวลึก พร้อมทั้งผลัดเซลล์ผิวเก่าที่อ่อนแอออก ลดการระคายเคืองผิวชั้นนอก สิวอุดตันลดลง ลดการเกิดสิวใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ⁷

- ใช้ในสิวอักเสบที่เริ่มทิ้งรอย หรือเริ่มมีผิวไม่เรียบสม่ำเสมอ
- เห็นผลลัพธ์หลังทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง ผิวเรียบเนียนขึ้น คอลลาเจนเพิ่มขึ้น
- ทำโดยแพทย์ผิวหนังเท่านั้น ต้องประเมินสภาพผิวและความถี่ในการรักษา
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับสิวอักเสบ (FAQs)

สิวอักเสบ คือ สิวที่มีการอักเสบและติดเชื้อใต้ผิวหนัง จึงมีตุ่มแดง ปวด บวม หรืออาจมีหัวหนองร่วมด้วย เมื่อจับแล้วจะรู้สึกเจ็บ ซึ่งต่างจากสิวอุดตันที่มีแค่การอุดตันของรูขุมขน ยังไม่มีการอักเสบ ผิวจะเป็นตุ่มเล็กๆ สีเดียวกับผิว หรืออาจมีจุดดำตรงกลาง เช่น สิวหัวขาว/สิวหัวดำ ไม่มีอาการปวดหรือบวม
ปัจจัยของการเกิดสิวอักเสบเรื้อรังมีได้หลายด้าน เช่น ฮอร์โมน อายุ ความเครียด การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับผิว หรือพันธุกรรม บางครั้งการรักษาผิวภายนอกอย่างเดียว ไม่ได้รับการรักษาที่ต้นเหตุ เช่น ความมันส่วนเกิน รูขุมขนอุดตัน การติดเชื้อ หรือการอักเสบเรื้อรังในต่อมไขมัน ก็ทำให้ปัญหายังคงเป็นซ้ำ วิธีการรักษาจำเป็นต้องปรับและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล รวมถึงการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันร่วมด้วย
การฉีดสิว (ส่วนใหญ่ใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ในปริมาณต่ำ) เหมาะกับสิวอักเสบขนาดใหญ่ที่ต้องการให้ยุบเร็ว เช่น เตรียมตัวออกงาน ข้อดี คือ ช่วยให้สิวที่เป็นตุ่มแดงยุบเร็วขึ้น ลดอาการเจ็บและโอกาสเป็นแผลเป็นได้ แต่การฉีดควรทำโดยแพทย์เท่านั้น เพราะต้องอาศัยความเข้าใจประเมินขนาด ปริมาณยา และตำแหน่งของฉีดอย่างรอบคอบ ไม่แนะนำให้ฉีดเองหรือฉีดบ่อย เนื่องจากเสี่ยงให้เกิดผิวบุ๋มที่ผิว หรือการดื้อยาได้
ปัจจุบันมีเลเซอร์ชนิดใหม่ ที่มีความยาวคลื่น 1726 nm เป็นที่นิยมใช้ดูแลสิวในทางการแพทย์อย่างแพร่หลาย ด้วยประโยชน์ที่ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน ช่วยลดความมันบนใบหน้า และลดความถี่ของการเกิดสิวอักเสบในระยะยาว ไม่ได้ช่วยแค่รอยสิว แต่รักษาที่ต้นเหตุของการเกิดสิวอักเสบ เหมาะกับสิวที่มีตั้งแต่ระดับเริ่มต้นถึงรุนแรง ผลลัพธ์ที่ดีต่อผิวในระยะยาว และผิวไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษา
สรุป สิวไม่ใช่แค่เรื่องผิว แต่เป็นเรื่องของความมั่นใจ
สิวอักเสบอาจดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่สำหรับคนที่เป็นอยู่ คือ เรื่องใหญ่ ทั้งความเจ็บ ความไม่มั่นใจ และบางครั้งอาจส่งผลต่อชีวิตประจำวันโดยไม่รู้ตัว
หมออยากให้ทุกคนรู้ว่า “สิวรักษาได้” แต่ต้องอาศัยเวลา ความเข้าใจ และการดูแลอย่างถูกวิธี และไม่จำเป็นต้องพึ่งยาเสมอไป เพราะปัจจุบันมีทางเลือกใหม่ ๆ ที่สามารถดูแลสิวได้ตั้งแต่ที่สาเหตุ เช่น เลเซอร์เฉพาะต่อมไขมัน, การฉายแสงลดเชื้อแบคทีเรียสิว, หรือการฉีดยาเฉพาะจุด ที่หมอจะเลือกใช้ให้เหมาะกับระดับสิวของแต่ละคน อย่าปล่อยให้สิวลุกลาม จนต้องเสียใจทีหลังเพราะทิ้งรอยดำ รอยแดง หรือหลุมสิวที่รักษายากกว่าการรักษาสิว ยิ่งเริ่มต้นดูแลเร็วเท่าไร จะช่วยลดโอกาสเกิดรอยแผลเป็น และป้องกันหลุมสิวได้ดีกว่าในระยะยาวค่ะ⁸
- Dreno B, Gollnick HP, Kang S, Thiboutot D, Bettoli V, Torres V, et al. Understanding innate immunity and inflammation in acne: implications for management. J Eur Acad Dermatol Venereol. 2015;29 Suppl 4:3–11.
- Li CX, You XF, Wu JY, Liu D, Deng YQ. Role of Cutibacterium acnes-induced IL-1β in the pathogenesis of acne vulgaris. Dermatol Ther. 2020;33(6):e14156.
- Zaenglein AL, Pathy AL, Schlosser BJ, Alikhan A, Baldwin HE, Berson DS, et al. Guidelines of care for the management of acne vulgaris. J Am Acad Dermatol. 2016;74(5):945–73.e33.
- Tan JKL, Bhate K. A global perspective on the epidemiology of acne. Br J Dermatol. 2015;172 Suppl 1:3–12.
- Thiboutot DM, Dréno B, Abanmi A, Alexis AF, Araviiskaia E, Barona Cabal MI, et al. Practical management of acne for clinicians: An international consensus from the Global Alliance to Improve Outcomes in Acne. J Am Acad Dermatol. 2018;78(2 Suppl 1):S1–S23.e1.
- Zaenglein AL. Acne vulgaris. N Engl J Med. 2018;379(14):1343–52.
- Dreno B, Thiboutot D, Layton AM, Berson D, Perez M, Kang S, et al. An expert view on the treatment of acne with blue and red light therapy: Practical recommendations and a comprehensive review of the literature. J Dermatolog Treat. 2021;32(3):243–50.
- Zeichner JA. A comprehensive approach to acne treatment. J Drugs Dermatol. 2016;15(11 Suppl 11):s21–s25.