รักษาแผลเป็น ไม่ต้องผ่าตัด เพิ่มความมั่นใจผิวเรียบเนียนขึ้น
หนุ่มๆ สาวๆ ถ้ามีผิวเรียบเนียน ผิวใส ดูอย่างไรก็มีเสน่ห์ แต่ถ้าเกิดมีรอยแผลเป็น เช่น คีลอยด์ ขึ้นมาก็คงทำให้ความกังวลใจตามมาไม่น้อย ไม่ว่ารอยนั้นจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม การรักษาแผลเป็นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ และในบางกรณีอาจต้องใช้วิธีเลเซอร์แผลเป็น เพราะแผลเป็นบางชนิดไม่สามารถหายเองได้ มีแต่จะยิ่งทำให้รอยชัดขึ้น กว่าจะรู้ตัวอาจกลายเป็นแผลเป็นที่อยากกำจัดให้หมดไป แต่ต้องใช้เวลาและการดูแลอย่างเหมาะสม ดังนั้น มาทำความรู้จักประเภทของรอยแผลเป็น รวมถึงคีลอยด์ และวิธีดูแลแผลเป็นด้วยเลเซอร์ของแต่ละประเภทกันดีกว่าค่ะ
การรักษา ดูแลแผลเป็นโดยแพทย์ของ BSL Clinic ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่เข้ารับการรักษา ทำให้แผลเป็นค่อย ๆ จางลงและผิวเรียบเนียนขึ้น
แผลเป็น ไม่ว่าจะขึ้นที่ไหนก็ไม่มีใครอยากเป็น ยิ่งถ้าเป็นในที่เห็นได้ชัดเจนอย่าง ใบหน้าแขน ขา มันไม่โอเคเลยจริงๆ แผลเป็นเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกันทั้งจากรอยสิว จากอุบัติเหตุ แผลไฟไหม้แผลที่เกิดจากการทำศัลยกรรม หรือแผลที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ มากมาย เมื่อแผลเริ่มแห้งและหายดีแต่จะทิ้งรอยทำให้ผิวหนังบริเวณที่เกิดแผลมีการเปลี่ยนไปจากเดิม อาจมีเป็นรอยนูนบนผิว ขนาดเล็กใหญ่ก็ตามรอยแผลที่เกิดขึ้น รอยพวกนี้ถือเป็นความผิดปกติของเนื้อเยื้อในระหว่างที่ทำการซ่อมแซมตัวเองและกลายเป็นแผลเป็นในที่สุด
- เกิดจากคอลลาเจนใต้ผิวเรียงตัวกันผิดปกติ
- เกิดจากพังผืดใต้ผิวหนัง
แผลเป็นที่เรารู้จักมีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน
1. แผลเป็นจากอุบัติเหตุทั่วไป
เกิดจากเนื้อเยื่อผิวหนังได้รับบาดเจ็บ จากการถูกกระแทก ของมีคม ถูกความร้อน หรือเย็นจัดหรือเกิดจากเหตุที่เราไม่คาดคิด นับเป็นแผลเป็นที่เกิดจากอุบัติเหตุ เกิดเป็นรอยแผลหดรั้ง ทำให้บริเวณแผลผิดรูปได้
2. แผลจากการผ่าตัด
การศัลยกรรม การผ่าตัดทั่วไป รวมถึงผ่าคลอดบุตร มักจะทิ้งรอยแผลเป็นที่มีรอยคล้ำสีจางๆ เอาไว้หลังจากที่ตัดไหมไปแล้ว ถ้าเป็นรอยเล็กๆ ใช้เวลาไม่นานมักจะจางหายไปเอง ด้วยกลไลการสร้างเซลล์เพื่อมาซ่อมแซมร่างกาย แต่หากเป็นแผลใหญ่มีรอยเป็นปื้นที่ของแผลกว้าง กว่ารอยจะจางลงก็ต้องใช้เวลานาน
3. แผลเป็นหลุมสิว
เกิดจากสิวอุดตันถูกเชื้อแบคทีเรีย (P.acne) มาทำการย่อยสิวที่ใต้ผิวหนัง ไม่สามารถออกมานอกผิวได้ ทำให้ใต้ผิวเกิดการอักเสบเป็นหนอง หนองแตกทำให้คอลลาเจนบริเวณนั้นเกิดการทำลายเซลล์ผิวเกิดความเสียหาย แต่ร่างกายของเรามีความฉลาดมาก เพราะจะทำการซ่อมแซ่มผิวจนเป็นพังผืดขึงตึงบริเวณที่หนองแตก และในที่สุดก็เป็นหลุมสิว ยิ่งถ้าใครเป็นสิวอักเสบเยอะๆ ผิวก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดรอยแผลเป็นหลุมสิวได้ง่ายมากๆ
4. แผลเป็นคีลอยด์ (นูน)
เกิดจากกระบวนการรักษาแผล มีการสร้างคอลลาเจนมากผิดปกติ ทำให้เนื้อเยื่อของแผลเป็นที่เกิดขึ้นกว้างขึ้นจนเกินขอบเขตของแผลเดิมมีลักษณะนูน มีสีเข้มกว่าสีผิวปกติ และอาจมีอาการคัน หรือเจ็บร่วมด้วย รอยแผลเป็นชนิดนี้จะไม่หายไปเองหรือยุบลงไปเองตามธรรมชาติ
น้องบอส – สนัญญ เป็นคนไข้ที่มีรอยแผลเป็นนูนบริเวณข้างแก้ม เป็นรอยแดงที่เห็นได้เด่นชัด เกิดจากเป็นคนที่มีอาการผิวแพ้ง่าย มีสิวอุดตันขึ้นเยอะมาก และมีอาการอักเสบร่วมด้วยทำให้เกิดรอยแผลเป็นคีลอยด์และอยากหาวิธี รักษา แผลเป็น เพื่อคืนความมั่นใจในการใช้ชีวิต
“ผมเป็นคนที่ผิวแพ้ง่าย สิวอุดตันขึ้นแบบรัวๆ เลย ขึ้นทีเป็นร้อยเม็ดเลยครับ พอเวลาขึ้นมาเยอะๆ ก็เกิดการอุดตันแล้วอักเสบ หลังจงากนั้นก็เป็นคีลอยด์ (Keloid) มากันเป็นคอมโบ้เซต ชุดใหญ่จัดเต็มจริงๆ คุณหมออธิบายให้ฟังว่า แผลเป็นชนิดนี้จะมีลักษณะนูนเงาและขยายใหญ่กว่าแผลเป็นที่เกิดขึ้นช่วงแรกๆ จะเป็นสีแดงแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีคล้ำหรือซีดลง บางคนอาจเกิดขึ้นทันทีที่แผลหายหรือหลังจากที่แผลหายดีไปได้สักพักอาจใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี กว่าจะก่อตัวขึ้นมาอาจทำให้รู้สึกเจ็บ คัน ระคายเคืองและส่งผลกระทบถึงเรื่องความสวยความงาม เกิดได้ทุกส่วนของร่างกายนะ แต่ส่วนใหญ่มักขึ้นตาม หน้า หน้าอก หัวไหล่ หลัง ลำคอ และติ่งหู ก่อนการรักษาบอกเลยว่าเวลาที่ไปข้างนอกก็ต้องคอยใช้คอนซีลเลอร์ปิดรอย ไม่อย่างนั้นคนจะชอบมาจ้องที่รอยแผลเป็น ความมั่นใจหายไปเลยครับ อย่างเวลาที่ไปรับงานเดินหรือถ่ายแบบ จะค่อนข้างมีปัญหาเรื่องเวลา เพราะต้องใช้เวลาในการแต่งหน้านานกว่าปกติ ปัญหาสิวและแผลเป็นนูนทำให้พลาดโอกาสการไปแคสงานหลายงานเลยครับ
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
“คุณหมอบอกว่า แผลเป็นคีลอยด์ (นูน) รักษาได้ รอยจะยุบลงไป แต่จะไม่หายขาด ถ้าจะให้รักษาแบบได้ผิวกลับมาเหมือนเดิมไม่มีทาง พอฟังตอนแรกผมก็รู้สึกเฟลไปเหมือนกัน เพราะตั้งความหวังไว้ว่าต้องหายขาดนะ แต่พอคุณหมออธิบายให้ฟังเพิ่มเติม คือ คุนหมอเปรียบเทียบแบบให้เห็นภาพว่าเหมือนเวลาที่ไม้แตก ต่อให้เราทำให้กลับมาผสานเป็นเนื้อเดียวกันกันแต่ก็จะไม่เรียบเนียนเหมือนเดิมนะ ผมเข้าใจเลยครับ (ยิ้ม) ทำให้เราเข้าใจในเรื่องของวิธีรักษา แผลเป็นและผลการรักษาได้ดีขึ้น ผมก็ยอมรับในเรื่องของผลการรักษาตรงนี้ได้ครับ ทำให้พอใจกับการรักษาของ BSL Clinic มากเลยนะครับ ผลลัพธ์ที่ได้กลับไปเกินความคาดหมายจริงๆ เพราะผิวหน้าดีขึ้นรอยสิวหายไป รอยแผลเป็นยุบและจางลง ผิวกลับมานุ่มเหมือนผิวเด็กเลย”
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
“หลังจากรักษา แผลเป็น ไปแล้ว บอกได้เลยครับว่าใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ได้ความสะดวกมากกว่าเดิม ดีกว่าเดิมเพราะไม่ต้องแต่งหน้านาน ทำให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมาก ออกไปข้างนอกก็กลบรอยแผลเป็นได้ง่ายขึ้น แค่ทาแป้งบางๆ แล้วก็ออกจากบ้านได้เลย ไปทำงานก็ไม่ต้องเสียเวลาให้พี่ๆ ช่างแต่งหน้าต้องมาคอยกลบรอย ประหยัดเวลาขึ้นเยอะเลยครับ ทำให้ใช้เวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกหลายอย่างเลย และสิ่งที่ดีที่สุด คือ ความกังวลก็หมดไปเรียกความมั่นใจกลับมาได้แบบเต็มๆ เลยครับ บอสคนเดิมที่เครียดๆ หายไป เป็นบอสคนใหม่ที่สดใสกว่าเดิมครับ”
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
วิธีการรักษารอยแผลเป็น
วิธีการรักษาของ BSL Clinic ที่ทำการรักษาให้กับ “น้องบอส สนัญญ” คุณหมอใช้วิธีการรักษาแบบผสมผสาน เป็นการใช้วิธีการรักษาหลายๆ แบบมารักษาร่วมกันเพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด มีทั้ง การรักษาด้วยเลเซอร์ ฉีดยารักษารอยแผลเป็นนูนเพื่อลดการอักเสบ และ ทายาสลายแผลเป็นนูน
เรียกได้ว่าอาการของน้องบอสที่เป็นมาต้องใช้การรักษา แผลเป็นแบบเป็นดับเบิ้ลคอมโบ้เซตกันเลยจริงๆ ด้วยอาการที่เป็นมีหลายอาการที่ต้องรักษาร่วมกัน เพื่อให้ผลการรักษาออกมาเป็นที่น่าประทับใจของคนไข้และได้รอยยิ้มและความมั่นใจกลับไป
1. เลเซอร์รักษารอยแผลเป็นและกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่ได้รับการยอมรับว่าช่วยให้ผลลัพธ์เร็วขึ้น โดยเลเซอร์จะทำหน้าที่ตัดพังผืดที่ดึงรั้งอยู่ใต้ผิว พร้อมส่งอนุภาคขนาดเล็กลงลึกถึงชั้นผิว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างผิวใหม่ กระตุ้นการจัดเรียงคอลลาเจนเดิมให้เป็นระเบียบ และช่วยซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ ซึ่งจะค่อย ๆ เติมเต็มให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น ทำให้ชั้นผิวมีความแข็งแรง อีกทั้งแสงเลเซอร์นี้ยังไม่กระทบผิวชั้นบน จึงมั่นใจได้ว่าเลเซอร์ที่ใช้จะไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นเพิ่ม
2. โปรแกรมเซลล์ซ่อมเซลล์ เป็นการนำเอาเลือดของคนไข้เองมาคัดแยกเพื่อให้ได้เซลล์ที่แข็งแรงและโกรทแฟคเตอร์ (อาหารของเซลล์) เข้าไปช่วยซ่อมแซมผิวเก่า สมานรอยแผลเป็น เป็นตัวช่วยกระตุ้นฟื้นฟูให้หลุมแผลเป็นตื้นขึ้นเป็นการสร้างผิวให้เกิดใหม่อย่างแข็งแรงจะได้ผลดีมาก การใช้เซลล์ในการซ่อมผิวช่วยในเรื่องของการรักษา แผลเป็น ที่ดีขึ้นนั่นเอง ขั้นตอนการรักษาด้วยเซลล์นี้แนะนำให้ทำควบคู่กับเลเซอร์รักษา แผลเป็น จะเวิร์คมากๆผลการรักษาก็ดีขึ้นอีกขั้นหนึ่งเลย
2. สาร HA (Program Filler) เป็นอีกหนึ่งเทคนิคในการฟื้นฟูหลุมแผลเป็น ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น การใช้สารนี้ควบคู่กับเลเซอร์จะช่วยเสริมประสิทธิภาพของการรักษา โดยจะทำการเพิ่มสารเข้าไปก่อนเริ่มเลเซอร์ เพื่อให้เลเซอร์สามารถโฟกัสที่รอยหลุมได้อย่างแม่นยำ พร้อมช่วยยกบริเวณใต้ผิวที่ยุบตัวให้ดูนูนขึ้น การใช้โปรแกรมฟิลเลอร์ในบริเวณที่มีพังผืดจะป้องกันไม่ให้พังผืดกลับมาก่อตัว โปรแกรมฟิลเลอร์สำหรับการดูแลหลุมสิวนี้อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน
รีวิวภาพผลการ รักษารอยแผลเป็นลึก ตื้น และแผลเป็นคีลอยด์
สิ่งที่อยากแนะนำคือ เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือหลังจากอาการอักเสบหายไป ในช่วงแรกควรรีบเข้ามาปรึกษาคุณหมอ เพราะการเริ่มรักษาเร็วจะช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นกว่าการปล่อยทิ้งไว้นาน การรักษารอยแผลเป็นต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือนขึ้นไป แผลจะค่อย ๆ ดีขึ้น โดยเฉพาะแผลบางชนิดต้องอาศัยความเข้าใจและเวลาในการรักษา อย่าใจร้อน หากเป็นแผลเพียงเล็กน้อยมักจะใช้เวลาไม่นาน
นอกจากนี้คุณหมอแนะนำว่า แม้แผลเป็นอาจไม่เรียบเนียน 100% แต่สามารถทำให้จางลงหรือยุบลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของแผล ขอแนะนำว่า หากเกิดรอยแผลเป็นไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน ควรปรึกษาคุณหมอทันทีเพื่อไม่ให้รอยเล็ก ๆ กลายเป็นรอยใหญ่ การรักษารอยแผลเป็นมีหลายวิธี และผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผลนั้น ๆ
- Facebook: BSL Clinic
- Contact Us: Contact Us