กระฝ้า ขึ้นเต็มหน้า จนไม่อยากส่องกระจก อยู่หรือเปล่า?

แบบมีสะเก็ด ที่ใช้เลเซอร์ 2 ชนิดรักษาร่วมกัน คือ เลเซอร์รักษาเฉพาะเม็ดสี + เลเซอร์ดึงเม็ดสี เริ่มด้วยการใช้เลเซอร์รักษาเฉพาะเม็ดสี ยิงคลื่นแสงเลเซอร์โฟกัสที่เม็ดสีกระลึกที่อยู่ชั้นผิวหนังแท้ ทำให้เม็ดสีแตกออกเป็นเม็ดเล็กๆ หลังจากนั้นเม็ดเลือดขาวจะมาเก็บกิน โดยเป็นการทำเลเซอร์ครั้งแรก ในช่วงระยะเวลาประมาณ 7-10 วัน ผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์รักษาเฉพาะเม็ดสี จะเริ่มเป็นสะเก็ดเล็กๆ และหลังจากสะเก็ดหลุดผิวก็จะเป็นสีอมชมพูระเรื่อ ต่อมาสีผิวที่จากอมชมพูก็มักจะเข้มขึ้นได้ (ในผิวบางคน) จากการวิจัย พบว่าผู้ใช้บริการที่ทำการรักษาแบบมีสะเก็ดสีผิวจะเข้มขึ้น 90% ดังนั้นคนที่รักษาด้วยวิธีนี้สีผิวจะเข้มขึ้นหลังจากทำไป 2 อาทิตย์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของกระบวนการสร้างเม็ดสี โดยที่ไม่ต้องกังวล เพราะ BSL Clinic มีแนวทางการรักษาที่จะช่วยลดความเข้มของสีผิวหลังเลเซอร์รักษาเฉพาะเม็ดสี โดยการดึงเม็ดสีออกจากใต้ผิว ด้วยเลเซอร์ดึงเม็ดสีออก (ทำหลังเลเซอร์รักษาเฉพาะเม็ดสีครั้งแรกแล้ว 1 เดือน) เพื่อโอกาสที่สีผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์จะเข้มข้น เป็นการเอาเม็ดสีออกเพื่อช่วยเม็ดเลือดขาวในการเก็บกิน ดังนั้นตัวเม็ดสีก็จะน้อยลง เม็ดเลือดขาวก็จะทำงานน้อยลง เมื่อทำงานน้อยลงโอกาสที่ความเข้มของสีผิวก็จะน้อยลงตามด้วย ดังนั้นเมื่อเราทำเลเซอร์ 2 ชนิดนี้ร่วมด้วย จึงช่วยลดการเกิดรอยดำ (PIH)  ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (จำนวนครั้งและความถี่ในการรักษาของแต่ละเลเซอร์ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้เหมาะสมกับกระของคุณ)

แบบมีสะเก็ด ที่ใช้เลเซอร์รักษาเฉพาะเม็ดสีเพียงชนิดเดียว แต่อย่างที่บอกไปข้างต้น ว่าการไม่ใช้เลเซอร์ดึงเม็ดสีร่วมด้วยนั้น ข้อเสียคือ ผิวบริเวณที่ทำจะเข้มขึ้น และใช้เวลานานในการรักษา ประมาณ 3 – 6 เดือนขึ้นไปกระที่เข้มขึ้น จึงค่อยๆ จางลง แต่อาจใช้เวลาช้ากว่าการรักษาแบบมีสะเก็ก