ลดเลือนรอยสักด้วย เลเซอร์ลบเม็ดสี Program PicoWay จาก BSL

Doctor
Appointment
Location

Program PicoWay พิโคเวย์ลดเลือนรอยสัก

รักษารอยสักได้ทุกสี ที่บีเอสแอล

Program Pico Laser พิโคเลเซอร์ เหมือนกัน แต่ Program PicoWay Laser เป็นเทคโนโลยีที่มีความยาวคลื่นหลากหลาย อีกทั้งยังมีพลังงาน หรือ High peak power ที่สูงในแต่ละความยาวคลื่น จึงมีประสิทธิภาพดีในการรักษาเม็ดสีรอยสักได้ โดยที่บีเอสแอลคลินิก เรามีหัวความยาวคลื่นของโปรแกรมพิโคเวย์ครบทุกหัว ในการลดรอยสักให้ได้ครบทุกสี เรามาดู หลักการทำงานของโปรแกรมพิโคเวย์ ว่าหัวช่วงคลื่นใดสามารถลดรอยสักสีใดได้บ้าง

Program PicoWay เลเซอร์ลบเม็ดสี ลดรอยสักได้อย่างไร?

แพทย์วิเคราะห์สีของรอยสักอย่างละเอียด เพื่อเลือกใช้หัวเลเซอร์ที่มีช่วงคลื่นเหมาะสมและตรงกับสีของรอยสักนั้น

เลเซอร์ที่ใช้ในกระบวนการนี้มุ่งเน้นการส่งพลังงานไปที่เม็ดสีรอยสักอย่างตรงจุด เพื่อช่วยให้รอยสักดูจางลง

เม็ดสีรอยสักแตกออกอย่างละเอียด เม็ดเลือดขาวในร่างกายเกิดกลไกในเก็บกินอนุภาคเล็กๆ ที่ถูกทำลายไปได้เอง

โปรแกรมพิโคเวย์ ลดรอยสักสีใด ได้บ้าง?

รีวิวผลลัพธ์ ลบรอยสักด้วยโปรแกรมพิโคเวย์เลเซอร์

"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"

งานวิจัยลดรอยสักด้วย Program PicoWay

86% ของผู้ที่ใช้ Program PicoWay Laser ลบรอยสัก พบว่าสีของรอยสักจางลง แต่อย่างน้อย 50% หายหลังการทำเลเซอร์เพียง 3 ครั้ง

83% ของผู้ที่ใช้ Program PicoWay Laser ลบรอยสัก ที่เป็นสีน้ำเงิน สีเขียว พบว่าสีของรอยสักจางลง แต่อย่างน้อย 50% หายหลังการทำเลเซอร์เพียง 2 ครั้ง

ลดรอยสักด้วยเลเซอร์อย่างไร ให้เหมือนไม่เคยสักมาก่อน

รอยสัก (Tattoo) ถือเป็นงานศิลปะแบบหนึ่งที่ใช้ผิวหนังของเราวาดแทนผืนผ้าใบ เรียกได้ว่าเป็นงานศิลปะบนผิวหนัง ลวดลายต่างๆ ที่สักไว้ คือเรื่องราวที่ผู้สักอยากจะเล่าผ่านลวดลาย บางคนก็สักเพราะอยากเก็บไว้เป็นความทรงจำ บางคนก็สักเพราะชอบในเรื่องของสีสันลวดลายและความหมายของสิ่งที่ได้สักลงไป แล้วแต่ว่าอยากบอกเล่าเรื่องไหนผ่านรอยสัก รอยสักมีทั้งแบบอยู่ชั่วคราวและถาวร แต่ บางคนอาจสักเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการ สักเพราะเพื่อนชวน สักเพราะเห็นว่าลายสวยงาม สักมาแล้วรอยนั้นไม่สวย ลายไม่คม ก็คือไม่ถูกใจหรือก็อยากลบรอยสักนั้นออก เพื่อให้ผิวหนังกลับมาเนียนโล่งเหมือนกลับไปเคยมีสีสันหรือลวดลายอะไรมาก่อน

วิธีการรักษา มีด้วยกันหลายวิธี

  1. การกรอด้วยเครื่องกรอผิว (Dermabrasion) หรือ เรียกกกันง่ายว่าการขัดผิวหนัง ใช้ลดรอยที่ถูกสักมาด้วยมืออาชีพ ด้วยการกรอผิว ถ้าเป็นรอยสักที่ตื้นการกรอผิวประมาณ 2 ครั้ง ก็เห็นผลได้ ถึงจะมีรอยแผลเป็นแต่ก็เห็นไม่เด่นชัดนัก แต่วิธีนี้จะทำให้เจ็บแสบบริเวณที่ขัด เลยไม่ค่อยเป็นที่นิยมสักเท่าไหร่
  2. การลอกด้วยสารเคมี (Chemical Peeling) โดยการใช้กรด หรือสาร Phenol ไปทำให้บริเวณที่สักเกิดเป็นรอยแผลไฟไหม้ มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนและต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง มักไม่ค่อยนิยมใช้ เพราะมักจะทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้
  3. การผ่าตัด (Surgical Removal) วิธีการนี้เหมาะสำหรับรอยสักเล็กๆ ที่ไม่ได้มีพื้นที่ในการสักมากนัก แต่หลังการผ่าตัดก็จะทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้
  4. การลดด้วยเลเซอร์ (Laser Surgery) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยจะใช้เลเซอร์ในกลุ่ม Q Switch Laser ให้พลังงานลงไปทำงานเพื่อสลายเม็ดสี แล้วทำให้หมึกแตกตัวเล็กๆ แล้วจะถูกขับออกมาจากร่างกาย

วิธีการรักษา ของ BSL Clinic

แพทย์จะแยกตามสีของรอยสัก เพื่อเลือกคลื่นแสงของเลเซอร์ที่เหมาะกับสีของรอยสักนั้นๆ เพราะในแต่ละสีของรอยสักจะใช้คลื่นแสงต่างกัน

สีดำ – เทา เป็นการใช้เลเซอร์ที่มีความเร็วแสงมากจะได้ผลดีเช่นในกลุ่ม Program Q Switch Laser ใช้ความยาวคลื่น 694 mm เนื่องจากมีความจำเพาะกับเม็ดสีดำสูงมากและสามารถทำลายเม็ดสีและทำให้เกิดแผลเป็นน้อย ไม่มีเลือดออก สีดำเป็นสีที่ลดได้ง่ายสุด ด้วยคุณลักษณะของสีดำเป็นสีที่ดูดซึมแสงเลเซอร์ได้ดี ทำให้เห็นผลการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สีเขียว จะรักษาได้ยากกว่าสีดำจึงจำเป็นต้องใช้เลเซอร์ Program Q Switch Ruby Laser เพื่อให้เกิดการแตกตัวของเม็ดสีหลังจากนั้นรอยสักจะจางหายไป 

สีแดง – ส้ม เลเซอร์ที่เหมาะมี 2 ชนิด คือ ช่วงคลื่น 595 mm หรือ long pulse 1064 mm ในกลุ่ม vascular laser เพราะมีความจำเพาะกับเม็ดสีแดง โดยในส่วน 595 mm เหมาะกับเม็ดสีแดงที่อยู่ตื้น ส่วน 1064 mm เหมาะกับเม็ดสีแดงที่อยู่ลึก

สีเหลือง การรักษาจะหายยากกว่าสีดำ หรือ สีแดง เนื่องจากไม่มีเลเซอร์ที่เฉพาะกับสีเหลือง แต่เลเซอร์ที่สามารถรักษาได้ดีที่สุดคือ ช่วงคลื่น 595 mm หรือ Q Switch Laser 1064 mm โดยต้องทำการรักษาหลายครั้ง 

สีน้ำเงิน – ม่วง เลเซอร์ที่เหมาะกับสีน้ำเงิน คือ Q Switch Ruby laser เพราะมีความจำเพาะกับเม็ดสีน้ำเงินค่อนข้างสูง

รอยสักที่อยู่ตื้น เช่น ที่ตาเป็นลักษณะ eyeliner สามารถใช้เลเซอร์ที่เอาเม็ดสีออกด้านบนได้โดยการรักษาเพียง 1-2 ครั้งก็จะจางไป

การลดรอยด้วยการรักษาด้วยเลเซอร์ ขึ้นอยู่กับสีของรอยสัก ระยะของการสัก รวมถึงความลึกของการสักด้วย ถ้าเป็นรอยสักลึกอาจต้องทำการมายิงเลเซอร์หลายครั้ง เพราะการลดสีในแต่ละครั้งต้องเริ่มจากการลดเม็ดสีในส่วนชั้นบนก่อนเพื่อให้เลเซอร์ไปทำให้เม็ดสีของหมึกที่สักแตกออกเป็นโมเลกุลเล็กๆ หลังจากนั้นรอให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองและค่อยกลับมายิงเลเซอร์ซ้ำ หลังจากนั้นร่างกายค่อยๆ นำออกไปเองตามธรรมชาติ หากเป็นรอยสักแบบตื้นๆ ยิงเลเซอร์เพียงครั้งเดียวรอยก็จางลงได้

ขั้นตอนการลดรอยสักด้วยเลเซอร์ ไม่มีอะไรซับซ้อน โดยจะทายาชาบริเวณที่จะยิงเลเซอร์ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที เวลาที่เลเซอร์ยิงลงไปจะได้ไม่เจ็บมาก แค่รู้สึกจี๊ดๆ 

"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"

การดูแลรักษาหลังทำเลเซอร์

  1. หลีกเลี่ยงแสงแดด ในบริเวณที่ยิงเลเซอร์มา และทาครีมกันแดดทุกครั้ง
  2. ระวังไม่ให้บริเวณที่ทำการรักษาโดนน้ำอย่างน้อย 1-2 วัน ภายใน 1 อาทิตย์สะเก็ดจะหลุดออกไปเอง รอยสัก ไม่ว่าจะเป็นด้วยวิธีไหน ไม่ควรที่จะลดรอยด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นถูกทำลายเกิดเป็นรอยแผลเป็น ผิวหนังไม่เรียบเนียน แทนที่จะได้ผิวเกลี้ยงๆ กลับคืนมา แต่กลายเป็นความไม่สวยงามอย่างที่คิดเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพราะฉะนั้นถ้าคิดจะลดรอยสัก ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น จึงจะปลอดภัยกับผิว ไม่เสี่ยงกับเอฟเฟกต์ต่างๆ ที่จะตามมา การลดรอยสักในยุคปัจจุบันเลยไม่ใช่เรื่องยากอีกไปด้วยมีเทคโนยีหลากหลายในการช่วยแก้ไขปัญหารบกวนใจ
icon email