เคยสงสัยกันไหมว่า การเป็นสิวเป็นๆ หายๆ มันเกิดขึ้นจากอะไร ทำไมปัญหาสิวเหล่านั้นไม่หายไปให้หมดเสียที สิวเราควรรักษาให้ตรงกับสาเหตุของการเกิดสิว (ดูสาเหตุของการเกิดสิวได้ที่นี่) เพราะเป็นการกำจัดปัญหาที่ต้นตอ และไม่ก่อให้เกิดปัญหา รอยแดง รอยดำ หลุมสิว ตามมาในภายหลัง
ประเภทของสิว
- สิวอุดตัน มักเกิดการจากอุดตันของรูขุมขน จากการใช้เครื่องสำอาง การตกค้างของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว หรือแม้กระทั้งการถูกกระตุ้นจากฮอร์โมนภายในร่างกายก็เป็นได้
- สิวอักเสบ มักเกิดขึ้นจากการที่ถูกเชื้อแบคทีเรีย C.acnes ที่เข้าไปย่อยไขมันที่อุดตันอยู่จนเกิดการติดเชื้อขึ้นมา ผิวหนังบริเวณนั้นจะเกิดการอักเสบขึ้น มีลักษณะนูน แดง อย่างเห็นได้ชัด
1. เป็นการรักษาจากสาเหตุ
เลเซอร์รักษาสิว มีหลักการทำงานที่เข้าไปลดขนาดของต่อมไขมันให้เล็กลง ช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น เมื่อ2ปัญหานี้ถูกรักษา ก็จะช่วยลดการอุดตันของผิวได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ด้วยว่ามีสารที่ก่อรให้เกิดการอุดตันอย่างเช่น ซิลิโคน, ลาโนลิน, น้ำหอม, โซเดียมคลอไรด์ ฯ เพราะการดูแลผิวจะต้องดูแลควบคู่กันไป เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด
2. ไม่เป็นอันตรายต่อผิว
หลายคนอาจจะฝังใจกับการที่รู้มาว่า เลเซอร์เวลายิงที่ผิวจะเหม็นไหม้ มีรอยหลังทำ หรือทำมาแล้วจะไม่สามารถแต่งหน้า หรือทาอะไรได้เลยหลังทำ 2-3 วัน แต่ในความเป็นจริง เลเซอร์ในการรักษาปัญหาสิวนั้น ควรที่จะต้องตั้งค่าพลังงานให้เหมาะสมกับปัญหาสิวของแต่ละคน รวมไปถึงการวิเคราะห์สภาพผิวว่าควรตั้งค่าพลังงานแบบไหนถึงจะไม่เกิดปัญหา เพื่อที่ว่า หลังทำการรักษาไป คนไข้จะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยที่ไม่ต้องพักหน้าแต่อย่างใด
3. เห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 3 เดือน
การดูแลปัญหาสิวกับคลินิก หลายคนมักจะเข้าใจว่า อาจจะโดนเลี้ยงไข้ หนึ่งวิธีที่จะดูว่าใช่หรือไหมคือ หลัง 3 เดือน สิวมันได้ลดลงจริงไหม เพราะหาก หลัง 3 เดือนแล้ว สิวก็ยังไม่มีวี่แววจะลดลง ก็อาจจะเป็นการรักษาไม่ตรงกับสาเหตุที่เป็น โดยปกติแล้วการรักษาปัญหาสิวจะต้องใช้เวลาพอสมควร ในบางที่รักษาไปแล้วหายไว แต่สักพักก็กลับมาเป็นอีก ซึ่งก็ยังไม่ตอบโจทย์การรักษาเจ้าสิวตัวร้ายให้หายไปในระยะยาว ดังนั้นการรักษาปัญหาสิวจะต้องใช้ความอดทน และใช้เวลา
4. ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงในระยะยาว
การทำเลเซอร์ชนิดนี้ จะเป็นการฟื้นฟูเซลล์ผิวให้กระตุ้นให้สร้างขึ้นมาใหม่ ทดแทนเซลล์ผิวหนังที่ตายไปแล้ว เพื่อให้ผิวใหม่แข็งแรงขึ้น เมื่อผิวถูกฟืนฟูแล้ว ก็จะลดปัญหาผิวที่จะตามมาในระยะยาว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการบำรุงผิวในช่วงหลังด้วยนะ เพราะต่อให้เลเวอร์ดีขนาดไหน แต่ไม่บำรุงผิวให้ถูกจุด ผิวก็อาจจะกลับมาแย่ได้เหมือนเดิม
5. ผิวหน้าเรียบเนียน เหมือนไม่เคยมีสิว
หากรักษาด้วยเลเซอร์ กับหมอที่มีประสบการณ์แล้ว หลังจบการรักษาคุณจะสัมผัสได้ถึงผิวหน้าที่เรียบเนียนมากขึ้น สิวที่เคยเป็นอยู่ก็จะหายไป และไม่กลับมาขึ้นซ้ำในบริเวณเดิม แต่ทั้งนี้อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น สิวมันสามารถกลับมาขึ้นใหม่ได้ทุกเมื่อ หากเราละเลยการดูแลผิว หรือไปกระตุ้นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวขึ้นมาอีก เจ้าสิวนั้นก็จะกลับมาเยือนผิวของเราได้อีกครั้งเช่นกัน
รีวิวจริง จากคนไข้รักษาปัญหาสิว ที่บีเอสแอลคลินิก
คุณนฤภร มีปัญหาสิวเรื้อรังมาตั้งแต่เรียนจบ จนปัจจุบัน ทำให้ปัญหาสิวที่เป็นอยู่นั้น มันทำให้ตัวเขาเองไม่มีความมั่นใจ แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยปัญหานี้ไป มีการเข้าไปทำการรักษามาหลากหลายที่ ที่ไหนว่าดีก็ไปมาหมด แต่เจ้าปัญหาสิวนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะหายไปได้จริงๆ จึงได้ตัดสินใจหาคลินิกสิวอีกครั้ง และได้มาเจอที่บีเอสแอลคลินิก และได้เห็นรีวิวของคนไข้ที่มารักษา ผลลัพธ์ออกมาค่อนข้างน่าพึงพอใจ จึงลองเข้ามาปรึกษาดู
แพทย์แนะนำให้คุณนฤภร รักษาอย่างไรบ้าง
- เลเซอร์รักษาปัญหาสิว ที่ตอบโจทย์กับการรักษาเจ้าสิวตัวร้ายทุกชนิด
- เลเซอร์รอยดำ ที่ช่วยลดรอยดำให้จางลงได้อย่างเร็วขึ้น จากการรักษาปัญหาสิวอย่างผิดวิธี
- ฉายแสงฆ่าเชื้อสิว ลดการอักเสบของสิวได้ ผิวกระจ่างใสขึ้น
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เป็นการบำรุงผิวให้ดีอยู่เสมอๆ
ดังนั้นหากมีข้อกังวลใจเรื่องสิว ทางที่ดีความปรึกษาหมอผิวหนังที่จะช่วยลดปัญหาผิวที่ตามมาได้ดีที่สุด
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาสิว
Line ID : @bslclinic **มี @ ข้างหน้า**
Line : https://line.me/ti/p/@bslclinic
โทร 02-235-8858
โทร 098-289-7805
