หน้าเป็นฝ้า แก้ได้ด้วย 5 วิธี รักษาฝ้าด้วยเลเซอร์
ครีมหน้าใส ขัดผิวลอกหน้า อาจทำให้หน้าเป็นฝ้า จริงหรือไม่ ?
ใครจะไปคิดว่า การใช้ครีมตามท้องตลาดทั่วไปที่เห็นว่าคนนั้นใช้แล้วผิวดี คนนี้ใช้แล้วหน้าใส เราใช้ตาม แต่สุดท้ายผลลัพธ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด “ผิวเริ่มมีปัญหา สิวขึ้น และบานปลายกลายเป็นฝ้า” คุณพรผกา เจ้าของธุรกิจดูแลเส้นผม จากที่เคยมีผิวหน้าปกติดี ไม่มีปัญหาใดๆ แต่เมื่อเริ่มใช้ครีมตามคำแนะนำของคนอื่น ตอนแรกผิวหน้าก็ใสดี แต่พอใช้ไปสักระยะหนึ่งก็เริ่มมีสิวขึ้น จากเม็ดเล็กๆ ไม่กี่เม็ดกลายเป็นสิวที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อหน้าเริ่มเป็นสิว คุณพรผกาตัดสินใจเข้าร้านเสริมสวยเพื่อกดสิว แต่ไม่ได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลผิวหรือการใช้ยาหลังการกด สิ่งที่ตามมาคือรอยแดงสะสมกลายเป็นรอยดำ เมื่อรอยดำเพิ่มขึ้นจึงหันมาใช้ครีมลดรอยดำ พร้อมกับการนวดหน้าและขัดหน้าเพื่อหวังให้ผิวขาวใสขึ้น แม้ในช่วงแรกดูเหมือนจะเห็นผล แต่เมื่อทำบ่อยขึ้น กลับพบว่าผิวหน้ามีปัญหาหนักกว่าเดิม ผิวเริ่มดำคล้ำและเกิดฝ้าขึ้น จากฝ้าจางๆ ในตอนแรก กลายเป็นฝ้าที่ชัดเจนและกระจายทั่วหน้า
เมื่อตระหนักว่าวิธีการดูแลผิวแบบเดิมไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา คุณพรผกาจึงตัดสินใจค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม จนได้มาเจอกับ BSL Clinic ที่ตอบโจทย์ความต้องการในการดูแลผิวได้อย่างตรงสาเหตุ
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
สาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้ผิวปกติ ก็กลับมีสิวขึ้นมาและฝ้าเข้มขึ้นด้วย
- ผลิตภัณฑ์ทาผิวหน้า ที่หาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป หรือตามอินเตอร์เน็ต บางตัวไม่ได้มาตรฐานหรือมีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อผิว ใช้ตอนแรกผิวอาจขาวใส แต่ใช้ไปเรื่อยๆ สารอันตรายเหล่านี้จะสะสมอยู่ในผิวและร่างกาย ให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวบางลง เกิดฝ้าถาวร
- การขัดผิวหน้า ลอกหน้าหรือการทำทรีตเมนต์บางตัวจนทำให้ผิวเกิดการอักเสบ ส่งผลให้ผิวหน้าบาง แดงระคายเคืองง่าย ไวต่อแสงแดด จึงเป็นตัวกระตุ้นทำให้ฝ้าเข้มขึ้น
เมื่อเราใช้ครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน บวกกับการทำทรีตเมนต์ขัดผิวหน้า จึงทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองง่าย สะสมไปเรื่อยๆ สุดท้ายส่งผลเสียกับผิวที่ยากต่อการแก้ไข จากผิวหน้าที่ปกติดีกลับกลายเป็นผิวบางลง แพ้ง่าย อ่อนแอลงเรื่อยๆ และมีสิวกับฝ้าขึ้นทั่วหน้า
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
การรักษาฝ้า เริ่มจากการลดเม็ดสีฝ้า (เม็ดสีเมลานินสีดำ) ที่เป็นสาเหตุของรอยหมองคล้ำบนผิวหน้า โดยใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพอย่างโปรแกรมเลเซอร์ลดเม็ดสี เทคโนโลยีนี้ออกแบบมาเพื่อลดเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนังให้แตกออก และกระบวนการตามธรรมชาติในร่างกายจะช่วยกำจัดเม็ดสีเหล่านั้นออกไป เม็ดสีฝ้าจึงค่อยๆ จางลงอย่างเห็นได้ชัด
เลเซอร์ที่ใช้ได้รับการออกแบบให้ทำงานเฉพาะกับเม็ดสีดำโดยไม่กระทบต่อผิวบริเวณข้างเคียง และไม่ทำให้ผิวด้านบนบางลง ซึ่งเป็นข้อกังวลของคนไข้หลายคน โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลการรักษาตั้งแต่ครั้งที่ 3 และผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อถึงครั้งที่ 5
สำหรับคุณพวงผกา ก่อนเข้ารับการรักษามีความกังวลว่าการทำเลเซอร์จะส่งผลให้ผิวหน้าบางลง แต่หลังจากที่คุณหมอได้อธิบายหลักการทำงานของเลเซอร์อย่างละเอียด พร้อมให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน ทำให้มั่นใจมากขึ้น
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
5 ข้อดีของการใช้เลเซอร์ลดเม็ดสี รักษาฝ้า
- เลเซอร์ที่มีความเฉพาะเจาะจงกับตัวเม็ดสีเมลานินสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า
- คุณหมอบีเอสแอลมีความเข้าใจในการตั้งค่าพลังงานเลเซอร์ให้ตรงกับชนิดของฝ้า เช่น ฝ้าตื้น ฝ้าลึก ฝ้าผสม
- ตัวเลเซอร์ที่มีความเจาะจงแค่เฉพาะเม็ดสี จึงไม่ทำลายผิวชั้นบนหรือผิวข้างเคียง
- เห็นผลการรักษา “ฝ้าจางลง” ผิวหน้าขาวกระจ่างใสขึ้น
- ใช้เวลาในการรักษา 15 นาที ขณะนอนรักษาจะรู้สึกสบายๆ ผิว
รักษาเม็ดสีฝ้าเข้มและหนาให้จางลง
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
ผิวหน้าโดนรบกวนจากการขัดผิวอย่างรุนแรงมามาก จึงทำให้ผิวอ่อนแอ อักเสบและบอบบางเป็นอย่างมาก วิธีในการดูแลผิว เติมพลังให้ผิวกลับมาแข็งแรงขึ้น แนะนำเป็นเลเซอร์ตัวนี้ ได้ผลลัพธ์ที่มากกว่า กำจัดเม็ดสีที่ผิดปกติออกจากผิว ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ด้วยโปรแกรมเลเซอร์ดึงเม็ดสี จุดเด่นของเลเซอร์ตัวนี้คือ
- ช่วยดึงเม็ดสีเมลานินที่ฝังลึกอยู่ใต้ด้านล่างของผิวหนังแท้ออก ช่วยทำให้ฝ้าจางลงเร็วขึ้น
- แสงเลเซอร์ต่อ 1 ตารางเซนติเมตรทำได้ 2,000 – 3,000 จุดเล็กๆ ยังสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ผิวที่อ่อนแอไวต่อแสงจึงเปลี่ยนเป็นผิวที่แข็งแรงขึ้น สุขภาพผิวดีขึ้น
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
หลังทำโปรแกรมเลเซอร์ดึงเม็ดสีออก ผิวจะมีสีชมพูระเรื่อถึงแดงประมาณ 1-3 ชม. และหลังจากนั้นวันที่ 1-2 จะเห็นว่ามีตัวขยะของผิว หรือที่เราเรียกว่า “MENDs” ลักษณะเป็นสะเก็ดผิวละเอียดและเล็กมากๆ อยู่ที่ด้านบนของผิว หลังจากนั้นวันที่ 5-7 ขยะของผิวก็จะหลุดออก โดยไม่ได้มีแผลอยู่ด้านล่างหรือด้านบนผิวเลย ซึ่งหลังการทำเลเซอร์นั้นสามารถล้างหน้า แต่งหน้า ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีการวิจัยเกิดขึ้นที่ระบุว่า 60% ของคนไข้ ผลการรักษาฝ้าด้วยโปรแกรมเลเซอร์กำจัดเม็ดสีฝ้าจางลงถึง 75% ขึ้นไป* หลังทำไป 2 ครั้งผิวจะดีขึ้น หลังทำ 3 ครั้ง ผ่านไปหนึ่งเดือน สองเดือน ผิวจะค่อยๆ กระจ่างใสขึ้น ฝ้าจางลง รูขุมขนเล็กลง ผิวแข็งแรงแบบไม่กระทบกับผิวด้านบน
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้น เรียบเนียนขึ้น
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
งานบำรุงและฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงลึกถึงระดับล้ำลึก ต้องยกให้ขั้นตอนนี้เลย “โปรแกรมเกร็ดเลือด” ทำทันทีหลังการรักษาด้วยเลเซอร์กำจัดเม็ดสี หากใครรู้สึกว่าผิวอ่อนแอหรือผ่านการโดนรบกวนทำร้ายมาเยอะ โปรแกรมเกร็ดเลือดสามารถช่วยฟื้นฟูได้อย่างตรงจุด เป็นการใช้เกร็ดเลือดเพื่อฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า เป็นการพลิกฟื้นผิวให้แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดการสร้างเม็ดสี ฝ้าจึงค่อยๆ จางลง เพื่อผลการรักษาที่ดีในระยะยาว
ฉายแสงฟื้นฟูผิวช่วยรักษาผิวที่โดยทำร้าย
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
การฉายแสงนี้ เป็นขั้นตอนหลังการทำเลเซอร์ดึงเม็ดสีและโปรแกรมเกร็ดเลือด เพื่อจะทำให้การฟื้นฟูผิวนั้นเป็นไปอย่างครบถ้วนในการรักษาที่คุณหมอได้มีการวิเคราะห์ไว้ อีกทั้งการฉายแสงยังช่วยลดความหมองคล้ำของผิว ฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดด ช่วยลดการอักเสบของผิวชั้นหนังแท้ซึ่งทำให้โอกาสเกิดการสร้างฝ้าหรือเม็ดสีใหม่นั้นน้อยลงได้ ขณะนอนฉายแสงจะรู้สึกสบายๆ ไม่แสบ ไม่ร้อนผิว หลังทำจะสังเกตได้ว่าผิวดูกระจ่างใสขึ้น
บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับปัญหาฝ้า
จากที่เคยผิวพังเพราะการใช้ครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน มีสารเคมีอันตรายปนเปื้อนจนส่งผลเสียต่อผิว เมื่อเราเริ่มเดินมาถูกทางแล้วด้วยการรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ เรื่องการเลือกใช้ครีมและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ผลิตภัณฑ์ที่ดีควรช่วยลดกระบวนการสร้างเม็ดสีอย่างครบถ้วน เช่น
- ลดการทำงานของกระบวนการสร้างเม็ดสีที่มากเกินไป
- ลดสารตั้งต้นที่กระตุ้นการสร้างเม็ดสี
- ลดการทำงานของเอ็นไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสี
- ช่วยลดการกระจายของเม็ดสีไปยังชั้นผิวหนัง
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวควรคำนึงถึงส่วนผสมที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้ และควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อให้เหมาะกับปัญหาผิวเฉพาะบุคคล การบำรุงผิวอย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสามารถช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้น ดูสุขภาพดีและเรียบเนียนได้มากขึ้น
ผลการรักษาฝ้า
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
รักษาผิวด้วยวิธีที่เหมาะสม ช่วยให้ผิวหน้าที่เคยมีปัญหาฝ้าหนาๆ ค่อยๆ จางลงอย่างเห็นได้ชัด ผิวดูสุขภาพดีและสดใสขึ้น กลายเป็นคุณพรผกาคนใหม่ที่มั่นใจในผิวหน้ามากกว่าเดิม ฝ้าที่เคยเป็นกลับมองแทบไม่เห็น และผิวที่เคยมีสิวก็ดูดีขึ้นด้วย การรักษานี้ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาฝ้า แต่ยังปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและดูสดใสกว่าเดิม หลายคนรอบตัวถึงกับทักว่าผิวดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คุณพรผกาเองก็รู้สึกพอใจกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะถือว่าเป็นการดูแลผิวที่คุ้มค่าที่สุด และช่วยตอบโจทย์ปัญหาผิวหน้าได้อย่างตรงสาเหตุ
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
VDO Review ผลการรักษาฝ้าของคุณพรผกา
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"
"ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล"